แมลงภู่คำ เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์แห่งล้านนา

ถ้าพูดถึงแมลงภู่คำ เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินเรื่องราวของเครื่องรางชิ้นนี้หรืออาจจะเคยได้ยินแต่เป็นส่วนน้อย เพราะเครื่องรางชนิดนี้เป็นเครื่องรางของทางล้านนาที่ได้รับอิทธิพลมากจากฝั่งพม่าประเทศเพื่อนบ้านของไทย ซึ่งในบทความนี้จะมาเล่าถึงที่มาที่ไปของเครื่องรางชิ้นนี้ว่าเป็นมาอย่างไรและช่วยในด้านใดบ้างให้ผู้อ่านได้รับรู้กันนั่นเอง

เว็บอัพเดทข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com

ที่มาของแมลงภู่คำ

แมลงภู่คำ เป็นเครื่องรางของทางล้านนาที่ได้รับมาจากพม่า ตามประวัติที่มีการระบุไว้พบว่า มีการพูดถึงเครื่องรางชนิดนี้ว่า อยู่บนเสลี่ยงของพระเจ้าบุเรงนอง เพราะเชื่อกันว่า เป็นเครื่องรางที่ใช้กันตั้งแต่ระดับกษัตริย์จนถึงสามัญชนธรรมดา การสร้างเครื่องรางนี้ต้องหาไม้ดุมล้อเกวียนโบราณที่ทำจากไม้ประดู่แดง แมลง ภู่คำในทางวิชาสายพม่านับถือมากว่า เป็นสัตว์คู่บารมีของพระเจ้าบุเรงนอง โดยบัลลังก์ที่พระเจ้าบุเรงนองนั่งว่าราชการทั้งสองข้างจะแกะสลัก รูปพญาแมลง ภู่คำ เฝ้าระวังรักษาอยู่ เป็นบัลลังก์ที่ พ่อครูโป๊ะโป๊ะอ่อง บรมครูในสายวิชาปถมังสิทธิ ได้สร้างและบรรจุพญาแมลง ภู่คำ 8 คู่ไว้ หากพระเจ้าบุเรงนอง จะไปรบที่ใดจะนั่งบัญชาการ ณ บัลลังก์นี้ จนชนะทั่วทั้งสิบทิศจึงถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมีของท่านนั่นเอง

ตำนานเรื่องแมงภู่คำ

ตามตำนานได้ถูกกล่าวไว้ว่า แมลง ภู่คำเป็นแมลงมงคลศักดิ์สิทธิ์ ได้รับรัศมีทิพย์โอกาส แห่งพระสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในครั้งที่ตรัสรู้บรรลุธรรมวิเศษแล้ว ขณะนั้นพญาภู่คำได้พากันบินไปยังป่าหิมพานต์ นำเอาดอกกาสะลองทิพย์มารองรัตนบัลลังก์ ถวายเป็นพุทธบูชาพระพุทธองค์จึงได้ตรัสเปล่งพุทธวาจาประสิทธิ์พร แก่พญาแมลงภู่นั้นว่า เป็นสัตว์ที่ประเสริฐกว่าแมลงมีปีกทั้งหลายทำให้ปัจจุบัน คนเชื่อว่าพญาภู่เป็นแมลงที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ผู้คนต่างนิยมทำเป็นเครื่องรางของขลังไว้บูชากันนั่นเอง

พุทธคุณของแมลง ภู่คำ

พญาแมลงภู่นับเป็นเอกทางโชคลาภ เมตตา ส่งเสริมดวงชะตาให้มั่งคั่ง ทั้งทรัพย์ ยศศักดิ์ เป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้คนทั้งหลาย อีกทั้งยังป้องกันคุณไสยมนต์ดำ และที่สำคัญอีกอย่างคือ หากแม้นว่าผู้หนึ่งผู้ใดคิดร้ายต่อผู้บูชา พญาแมลงภู่ จะไปทำร้ายบุคคลนั้นให้ได้รับความเจ็บปวด และหลาบจำ ถ้าปรารถนาสิ่งใด จงอธิฐานบอกกล่าวเอาเอง จะสมประสงค์ดังที่หวัง

การสร้างแมลง ภู่คำ

การสร้างเครื่องรางนี้จะต้องหาไม้ดุมล้อเกวียนโบราณที่ทำจากไม้ประดู่แดงเก่าตามตำรา มาทำเท่านั้น เป็นความเชื่อโบราณที่ว่า ไม้ดุมล้อเกวียนใช้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ผู้บูชาจะได้เจริญก้าวหน้าตลอดไป คนทำต้องมีเชื้อเจ้าด้วย ด้านในอุดด้วยปรอท เขย่าดังกิ๊กๆ กว่าจะได้ทำต้องรอกันเป็นปี ตามตำราบอกถึงพุทธคุณ หลายอย่าง เช่น เมตามหาเสน่ห์ เมตามหานิยม เมตาค้าขาย ดีด้านโภคทรัพย์ด้วย มีพลังด้านคุ้มภัย กันภูตผีปีศาจได้ กันคุณไสยได้ เดินทากก็คุ้มครองให้ปลอดภัย สำหรับตำราการสร้างแมลง ภู่คำ เท่าที่สามารถสืบค้นได้ ระบุไว้ว่า

1. คนแกะต้องเป็นเชื้อเจ้าเท่านั้น
2.  แกะได้เฉพาะวันที่กำหนดและในฤกษ์ที่กำหนดเท่านั้น
3. ในการปลุกเสกต้องตามสูตรที่โบราณจารย์กำหนดให้ครบทุกที่คือ ปลุกเสกหอเจ้าเมือง ปลุกเสกป่าช้าบ้าน ปลุกเสกป่าช้าพระสงฆ์ ปลุกเสกทางสี่แพ่ง ปลุกเสกท่าน้ำที่มีคนขึ้นลงจำนวนมาก ปลุกเสกกลางงานปอย หรือ งานอบรมสมโภช ปลุกเสกกลางตลาด ปลุกเสกที่พระธาตุเจดีย์ ปลุกเสกในวิหาร และปลุกเสกในพระอุโบสถ

นอกจากนี้ยังมีการกำหนดบทที่ต้องใช้ในการสวดปลุกเสกครั้งสุดท้ายนั้นก็คือ สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ 3,000 จบ สัมพุทเธ สวดอีก 1,000 จบ จึงจะเสร็จตามตำรา คุณวิเศษของ แมลภู่คำ ตามตำรานี้ดีเช่นเดียวกับเบี้ยแก้ เพราะด้านในจะบรรจุปรอท และปรอทนั้นเป็นปรอทดักที่มาจากป่า แต่คุณวิเศษที่เพิ่มเติมมานั้น ก็คือทางด้านมหาเสน่ห์ นั่นเอง

สรุป 

แมลง ภู่คำ เครื่องรางศักดิ์สิทธิ์แห่งล้านนาเป็นเครื่องรางที่เชื่อกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งเครื่องรางนี้จะคอยปกป้องผู้ที่บูชาไม่ให้มีอันตรายเกิดขึ้นและยังส่งเสริมด้านการค้าขาย โชคลาภ กันคุณไสยมนต์ดํา หรือแม้แต่ภูตผีปีศาจ ก็ไม่อาจจะเข้ามาทำร้ายผู้ที่บูชา แมลง ภู่คำ นี้ได้นั่นเอง ปัจจุบันผู้คนเริ่มหันพกเครื่องรางนี้ไว้กับตัวกันมากขึ้นเพราะเชื่อว่าจะนำพาสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตเขานั่นเอง

ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับสายมู ความเชื่อ และโชคลาภอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้