ถ้าให้นึกถึงช้างเผือก คนส่วนใหญ่คงนึกถึงช้างที่มีผิวสีขาวหรือชมพูแกมเทา แต่ช้างเผือกที่จะนำเสนอในบทความวันนี้ เป็นช้างเผือกที่มีลักษณะมงคลตรงตามตำรา และราชการไทยยังได้มีการกำหนดชื่อช้างเผือกมงคลนี้ขึ้นมาใหม่ จะเป็นชื่ออะไร และต้องมีลักษณะอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ลักษณะโดยทั่วไปของช้าง
ช้างเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นสัตว์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของคนไทย ลักษณะโดยทั่วไปของช้างทุกชนิดจะมีงวงยาว หูกางขนาดใหญ่ ขาใหญ่ และผิวหนังที่หนาแต่ละเอียดอ่อน สีของช้างปกติจะมีสีเทาแกมดำ แต่จะมีช้างบางตัวที่มีลักษณะสีพิเศษแตกต่างจากช้างทั่วไป นั้นก็คือช้างเผือก ที่มีสีขาวหรือชมพูแกมเทา ซึ่งมีทั้งลักษณะที่เป็นมงคลและไม่เป็นมงคล เนื่องจากเหตุนี้ทางราชการไทยจึงได้กำหนดศัพท์ที่ใช้เรียกชื่อช้าง ที่มีลักษณะพิเศษครบตามตำราขึ้นใหม่ โดยให้เรียกว่า
‘’ช้างสำคัญ’’
ในส่วนของวันนี้ ก่อนจะไปกันต่อในบทความ ขอเสนอ นงน้อย.com เว็บอัพเดพข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ
ลักษณะช้างเผือก หรือ ช้างสำคัญ
ต้องลักษณะครบถ้วนทุกประการ ดังนี้
- ตาขาว
- เพดานขาว
- ขนขาว
- เล็บขาว
- ขนหางขาว
- พื้นหนังขาวหรือสีคล้ายหม้อใหม่
- อัณฑะโกศขาวหรือคล้ายสีหม้อใหม่
หากช้างเผือกได้ถูกเลือกเป็น ช้างสำคัญ จะต้องเรียกลงท้ายว่าช้าง ไม่ใช่เชือก เหมือนช้างสามัญทั่วไป และหากเป็นช้างที่ได้รับพระราชทินนาม หรือได้ถูกสถาปนาเป็นพระยาช้างเผือกของพระมหากษัตริย์ให้เรียกคำนำหน้าว่า “คุณพระ”
ช้างเผือก 4 ตระกูล
ช้างเผือกทั้ง 4 ตระกลู เกิดจากพระนารายณ์ได้นำกลีบและเกสรดอกบัวไปถวายพระพรหม พระอิศวร พระวิษณุ และพระอัคนี โดยแบ่งเป็น 4 ส่วน และต่อมา มหาเทพทั้ง 4 พระองค์ก็ทรงเนรมิตกลีบและเกสรดอกบัวให้เป็นช้าง จึงได้กำเนิดเป็นช้างมงคล แบ่งออกเป็น 4 ตระกูล ดังนี้
1. ตระกูลอิศวรพงศ์
คือ ช้างเผือกที่พระอิศวรเนรมิตเป็นช้างที่มีผิวกายดำสนิท งางอนอวบเท่ากันทั้งสองข้าง มีขนาดเท้าใหญ่ น้ำเต้ากลม คอมีรอยย่น ขณะเยื้องย่าง หน้าเชิด อกผ่ายใหญ่ งาขวางดงามกว่างาซ้าย โอบรอบงวง จัดเป็นช้างชาติกษัตริย์ แสดงถึงความสุข และเจริญด้วยทรัพย์สินและอำนาจ
2. ตระกูลพรหมพงศ์
คือช้างเผือกที่พระพรหมเนรมิต เป็นช้างที่มีหน้าใหญ่ ท้ายต่ำ เนื้อหนังอ่อนนุ่ม ขนนุ่มละเอียด เส้นเรียบเสมอ โขมดคิ้วสูง มีน้ำเต้าแฝด กระเต็มตัว ขอบตามีสีขาว อกใหญ่ ขนที่หลังหูและปาก งาสีเหลืองทองเรียวงาท มีทั้งหมด 10 หมู่ ฉัททันต์คือหมู่ที่โดดเด่นที่สุด เพราะมีผิวกายเป็นสีเงิน ปาก ขนและงาสีทอง พระพุทธเจ้าครั้งที่เสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์จะถือกำเนิดเป็นช้างเผือกที่เป็น พระยาฉัททันต์ หรือพระอุโบสถ เท่านั้น จัดเป็นช้างชาติพราหมณ์ ถือว่าเป็นช้างแห่งอายุยืนยง สูงส่งด้วยวิทยาการ
3. ตระกูลวิษณุพงศ์
คือ ช้างเผือกที่พระวิษณุเนรมิต เป็นช้างที่มีผิวหนา เกรียน ขนหนาสีทองแดง ส่วนอก คอ คางและหน้ามีขนาดใหญ่ งวงยาว หางยาว นัยน์ตาสีขุ่น มี 6 หมู่ สังขทันต์ โดดเด่นที่สุด เพราะมีเสียง 2 เสียง ช่วงเช้าเสียงเป็นเสือ ช่วงเย็นเสียงเหมือนไก่ขัน มีงาอวบเหมือนสังข์ เป็นพระยาช้าง เป็นช้างชาติแพศย์ เป็นช้างแห่งชัยชนะ
4. ตระกูลอัคนีพงศ์
คือ ช้างเผือกที่พระอัคนีเนรมิต เป็นช้างที่มีท่วงทีงดงาม ตอนเดินเชิดงวง อกผ่ายใหญ่ งามีสีเหลืองจนสีขาวปนแดงโค้งยาวจรดกัน สีผิวเหมือนใบตองแห้ง มี 42 หมู่ เป็นช้างที่ขาดลักษณ์สำคัญต่างๆ จะจัดอยู่ในตระกูลนี้ด้วย มีผิวกายประหลาดแต่ ตกชั้น จัดเป็นช้างชาติศูทร
ความเชื่อที่มีต่อช้างเผือก
- คนไทยเชื่อว่าช้างเผือก เมื่อพระมหากษัตริย์ได้ครอบตรองช้างเผือก ยิ่งมีจำนวนมากเท่าไหร่ ก็จะถือว่าเป็นกษัตริย์ที่พร้อมด้วยบุญญาภินิหารบารมีมาก เป็นมงคลแก่บ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข
- คนพม่าเชื่อว่า หากได้พบกับช้างเผือก ก็เปรียบเสมือนกับได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ในอดีตชาติเคยเสวยชาติเกิดเป็นช้างเผือก ที่คนพม่ามีความเชื่อนี้ก็เพราะนับถือศาสนาพุทธแบบเถรวาทเช่นเดียวกับไทย
- มีความเชื่อว่าหางของช้างเผือก เป็นเครื่องรางที่สามารถป้องกันเสนียดจัญไร ปกป้องภัยอันตราย
แกผู้ที่บูชา ในอดีตและปัจจุบันจึงนิยมนำมาทำเป็นแหวนพกติดตัว
- มีความเชื่อหากช้างเผือก เกิดบาดเจ็บ งาหักหรือล้ม หรือมีอาการผิดปกติที่ไม่รู้สาเหตุ จะถือว่าเป็นลางร้ายของแผ่นดิน อาจเกิดอาเพศภัยร้ายแรงขึ้นแก่ประชาชนหรือเมื่อบ้านเมืองได้
สรุป
ลักษณะช้างเผือกที่ตรงตามตำรานั้น ต้องมีลักษณะครบ 7 ประการตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นถึงจะเรียกว่า ช้างสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือกหรือช้างสามัญ คนไทยยังให้การยกย่องและมีความผูกพันกับช้างมาอย่างยาวนาน อีกทั้งช้างในอดีตยังสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับบรรพบุรุษของคนไทย เพื่อปกป้องประเทศไทยอีกด้วย
ยังมีเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้