เปิดตำนาน พระสมเด็จ จักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง  

เปิดตำนาน พระสมเด็จ จักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง    

เปิดตำนาน พระสมเด็จ จักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง หากจะกล่าวถึงวงการของผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยนั้น พระเครื่ององค์ที่ใครๆหมายปองในจุดสูงสุดของพระเครื่องนั้นคงหนีไม่พ้นพระ สมเด็จ จักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง เหตุใดถึงความต้องการครอบครองมีมากขนาดนั้น มากขนาดที่ว่าได้รับคำนิยามว่าเป็นก้อนดินที่แพงที่สุดในโลกเลย วันนี้ลองมาหาคำตอบกันครับ 

นงน้อย.com เว็บอัพเดพข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ 

 

ลักษณะของพระสมเด็จ       

พระ สมเด็จมีลักษระเป็นพระผงสี่เหลี่ยมถูกสร้างขึ้นมาจากดิน และมวลสารอื่นๆของท่านสมเด็จพระพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี) มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมด้านหน้า มีรูปองค์พระพุทธเจ้า นั่งอยู่บนฐาน มีหลากชั้นเช่นพระที่ได้รับความนิยมสูงสุดจะเป็น สมเด็จวัดระฆัง มีลักษณะเป็นฐานสามชั้น หรือสมเด็จเกศไชโยมีลักษณะ 7 ชั้น หรือ 9 ชั้น ส่วนด้านหลังขององค์พระนั้นจะเรียกกันว่าหลังเรียบเนื่องจากการแกะพิมในสมัยก่อนที่ยังไม่มีความปราณีตนั้นการแกะลายยันต์หรือการแกะบล็อกยังไม่ละเอียด การปั้มก็ยังไม่มีเครื่องทำให้ในสมัยนั้นเป็นการสร้างพระที่ เน้นเรียบง่ายผ่านการกดมือนั่นเอง 

เปิดตำนาน พระสมเด็จ จักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง  

ทำไมค่านิยมในพระถึงสูง

หากจะถามว่าทั้งที่มีพระเครื่องตั้งมากมายในประเทศไทยทำไม สมเด็จถึงเป็นพระเครื่องที่ได้รับการยอมรับและค่านิยมการเช่าหาที่สูงมากขนาดนี้ ประเด็นแรกอาจจะหนีไม่พ้น พระเกจิที่ปลุกเสกนั่นคือ สมเด็จพระพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี) ผู้ที่เป็นผู้ปราบผีแม่นาคที่เฮี้ยนมากๆลงได้และยังเป็นผู้ที่ชาวบ้านและผู้คนในสมัยนี้เชื่อกันว่าเป็นผู้ที่เก่งกล้าสามารถและเป็นเลิศในวิชาอาคมบวกกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัตถุมงคลที่มีผู้ครอบครองไปประสบเหตุต่างๆแต่รอดมาได้โดยปาฏิหาริย์ค่านิยมจากมากขึ้น และบวกกับความต้องการเช่าหามาครอบครองมีจำนวนมากกว่าพระเครื่องที่เหลือในปัจจุบัน เพราะพระเครื่องที่เป็นเนื้อผงหากรักษาไว้ไม่ดีจะชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลาบวกกับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีการทำพระปลอมขึ้นมาเลียนแบบเป็นจำนวนมาก ผู้ที่จะมีสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ที่เป็นจักรพรรดิพระเครื่องนั้นเป็นไปได้ยากมาก เลยส่งผลให้ ค่านิยมและราคาเช่าหาพุ่งสูงตามไปจนถึงหลักร้อยล้าน พันล้านบาทเลยทีเดียว และไม่ใช่ว่ามีเงินก็จะซื้อได้ 

ตำนานการสร้างสมเด็จวัดระฆัง จักรพรรดิพระเครื่อง     

การสร้างสมเด็จวัดระฆังนั้น ไม่มีการบันทึกว่ามีการสร้างจำนวนเท่าใดท่านจะสร้างตามจำนวนของวัตถุมวลสารของท่านแต่ท่านสร้างสมเด็จวัดระฆังเป็นเวลารวมๆทั้งหมด 6 ปี ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2409 จนถึงปีพุทธศักราช 2415 สมเด็จวัดระฆังนั้นมีการสร้างทั้งหมด 5 พิมพ์อ้างอิงค์จากวงการพระเครื่องพระบูชาไทยที่มีการยอมรับนั้นคือ 1. สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 2.สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ทรงเจดีย์ 3. สมเด็จวัดระฆังพิมพ์เกศบัวตูม 4.สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซม 5. สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ปรกโพธิ์ โดยมวรสารส่วนใหญ่ที่ผสมผสานจนมาเป็นสมเด็จวัดระฆังนั้นจากการศึกษาจะพบว่า จะมีผงปูนขาวพุทธคุณซึ่งได้แก่ ผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงตรีนิสิงเห อีกทั้งสมเด็จพระพุฒจารย์ (โต พรหมรังสี) ยังมีการผสมผงช็อกซึ่งในสมัยก่อนนั้นการเขียนหนังสือจะต้องเขียนใส่กระดานชนวน ท่านได้เขียนอักขระเลขยันต์เสกคาถาอาคม เขียนลงบนกระดานชนวนแล้วลบ ให้เกิดผง ทำอยู่แบบนั้นแล้วนำผงที่ทำมาผสมสร้าง พระ สมเด็จ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นยังมีวตถุอื่นๆอีกที่ถูกนำมาผสมเช่น ใบลานเผาว่าน อิฐที่แตกหัก ดอกไม้แห้งที่บูชาพระเสร็จแล้ว นำทั้งหมดมาโขลกเข้าด้วยกันแล้วใช้วิธีการประสานองค์พระด้วยน้ำมันตังอิ๊ว จะทำให้เนื้อพระไม่แตกหักง่ายๆ จากนั้นแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านและทหารต่างๆ จนเกิดประสบการณ์และค่านิยมสูงจนมาถึงปัจจุบัน 

สรุป

ในปัจจุบันค่านิยม การเช่าหาบูชา สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่นั้นสูงเป็นร้อยๆล้านทำให้มีของปลอมเกิดขึ้นมาก การเช่าหาพระเครื่องจึงต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะโดนหลอกก็ได้ และนอกจากสมเด็จวัดระฆังแล้ว ยังมีพระเครื่องของสมเด็จพระพุฒจารย์(โต พรหมรังสี) ที่สามารถใช้แทนกันได้อยู่นั่นคือ สมเด็จบางขุนพรหม และ สมเด็จเกศไชโย แต่ค่านิยมอาจจะเบาลงมาหน่อย เช่าหากันในราคาหลักแสนปลายๆจนถึงหลักสิบล้าน

ก่อนจากกันวันนี้ ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยว โชคลาภ ให้ท่านได้อ่าน