เปิดตำนานผีโพง ดวงไฟลอยกลางทุ่งคล้ายกระสือ
ถ้าพูดถึงตำนานที่เกี่ยวกับผีตามแต่ละภาคของประเทศไทย หรือตามพื้นบ้านที่ถูกเล่าต่อกันมาเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเหล่านี้มามากมายอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับผีก็จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งในบทความนี้จะมาเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับผีโพง ซึ่งเป็นผีของภาคเหนือและเรื่องราวของผีตนนี้จะมีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรติดตามได้ในบทความนี้ได้เลย
เว็บอัพเดทข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com
ผีโพง
ผีโพง คือผีจำพวกเดียวกับผีเป้าแต่ชอบกินของเน่าเปื่อยมักปรากฏตัวอยู่ในทางภาคเหนือ และในทางภาคอีสานเองก็ได้มีการกล่าวถึงกันอย่างมากมายเช่นกัน เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของผีป่าที่ถูกผู้มีอาคมนำมาเลี้ยงไว้ในกระบอกไม้ขนาดเล็ก และเมื่อถึงคืนแรม 15 ค่ำ ผู้เลี้ยงจะต้องปล่อยให้ออกไปหากินหรือนำเครื่องเซ่นมาให้มิเช่นนั้นจะกลายมาเป็นภัยกับตัวเจ้าของเอง แต่โดยทั่วไปเชื่อกันว่าผีตนนี้เป็นวิญญาณของเหล่าคนที่เล่นคุณไสยมนต์ดำ แล้วเกิดการควบคุมวิชาของตนเองไม่ได้ จนกระทั่งของย้อนกลับมาเข้าตัวเอง หรือเกิดจากการปลูกว่านลึกลับชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ว่านผีโพง ลักษณะเป็นสีขาว รสร้อนฉุน เมื่อปลูกจนกระทั่งแก่ได้ที่จะมีปรอทลงกินจนกระทั่งเรืองแสงขึ้นเหมือนกับ แมงคาเรือง มีขนาดเล็กเท่าก้านไม้ขีด หรือเท่ากับเห็ดเรืองแสง สมัยก่อนผู้ที่เล่นคาถาอาคมจะปลูกว่านนี้ไว้ข้างรั้ว เพราะนอกจากจะนำมาเข้าพิธีเพื่อเปลี่ยนให้เป็นมวลสารกายสิทธิ์และว่านนี้ยังถูกนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรอีกด้วยนั่นเอง
ลักษณะของผีโพง
ลักษณะโดยทั่วไปจะดูเหมือนกับคนธรรมดา ถ้าหากสงสัยว่าใครเป็นผีโพงให้ทำการสังเกตที่ผิวที่เหลืองซีด ปลายจมูกจะเป็นสีแดงมากกว่าคนทั่วไปอย่างมาก หากมองใกล้ๆจะมีเส้นเลือดแดงให้เห็นอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าหากผู้ถูกสิงเป็นผู้หญิงปลายผมจะแห้งงอมากกว่าปกติ และมีขนตาที่สั้นมากพอตกกลางคืนเมื่อไหร่จะกลายร่ายเป็นผีโพง โดยมีจุดสังเกตเห็นแต่ไกลคือ จะมีดวงไฟที่รูจมูก และเมื่อกลายร่างแล้วจะมีอำนาจสะกดจิตทำให้ทุกคนในบ้านหลับสนิท แล้วจะนำจมูกไปเสียดสีกับบันไดบ้านให้กลายเป็นลูกไฟสีแดง ม่วง เขียว ก่อนออกไปตระเวนตามหาของดิบ ของสกปรก โดยเฉพาะเมือกกบ เมือกเขียด คาวปลาสด รกเด็ก และศพ ในสมัยโบราณหลายครั้งจึงมักจะพบผีโพงมาด้อมๆมองๆ ตามใต้ถุนบ้านของผู้หญิงที่กำลังอยู่ไฟ เพื่อมองหารกเด็ก หรือของสกปรกที่หยดลงมาจากพื้นไม้นั่นเอง
คำสาปแช่งของผีโพง
ผีโพงโดยพื้นฐานจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนที่ถูกสิงทุกอย่าง และยังขี้อายจะพยายามหลบไม่ยอมให้คนอื่นเห็นหน้าไม่ได้มีนิสัยดุร้าย แต่จะทำร้ายมนุษย์ก็ต่อเมื่อจำเป็นจากการถูกคุกคาม ถ้าใครบังเอิญไปเจอเข้าอย่างจัง มันจะไม่เข้ามีทำร้ายแต่จะวิ่งหนี หรืออ้อนวอนขอให้ไม่บอกคนอื่น พร้อมบอกว่า มันเป็นวิบากกรรมของมันที่ต้องมาชดใช้กรรมแบบนี้ ถ้าตกลงที่จะไม่บอกใครมันจะเสกสิ่งของให้กลายเป็นทองคำเพื่อเป็นค่าตอบแทน แต่ถ้าหากไม่รับปาก มันจะเข้ามาทำร้ายหรือทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นผีโพงด้วย โดยการถ่มน้ำลายใส่ภาชนะใส่น้ำดื่นของคนนั้น รวมถึงการตามไปสาปแช่งครอบครัวของคนนั้น ด้วยการเสกก้านกล้วยแม่หม้าย หรือก้านกล้วยที่ถูกตัดใบออกจนหมด หรืออาจจะเป็นคานคาบของแม่ม่ายพุ่งข้ามหลังคาบ้าน หรือใต้ถุนบ้านของคนที่มันจะสาปแช่ง สงผลให้คนที่อยู่อาศัยภายในบ้าน จะเจอแต่เรื่องเคราะห์กรรม ภัยพิบัติ และเจ็บป่วย จนหลายครั้งมีคนตายเพราะแรงสาปแช่งยกครอบครัวเลยก็มีเช่นกัน
การป้องกันตัวจากผีโพง
เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อพบกับผีโพง คนเฒ่าคนแก่จึงได้สอนคนที่ออกไปหาปลาในตอนกลางคืนว่า ถ้าหากไปพบกับมันเข้าห้ามเข้าไปใกล้อย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหากใครบังเอิญเจอแบบจังๆ และจำได้ว่าเป็นคนรู้จักห้ามทักหรือเรียกชื่อร่างสิงสู่นั้น ถ้าเป็นไปได้ให้พยายามเลี่ยงหนีไปอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าของมันนั่นเอง
สรุป
เรื่อราวเกี่ยวกับผีโพงเป็นเรื่อที่มีการเล่าต่อกันมาตั้งแต่อดีต ว่าด้วยคนที่มีอาคมวิชาคุณไสยมนต์ดำเล่นของ จนของเหล่านั้นเข้ามาสิงสู่ในตัวของตนเองจนกลายเป็นผีนั่นเอง หรืออาจจะเป็นการเลี้ยงว่านชนิดหนึ่งที่เชื่อกันว่าว่านมีพลังอำนาจมีวิญญาณสิงสู่อยู่จนกลายมาเป็น การเลี้ยงผีโพงที่เราเคยได้ยินกันมานั่นเอง ปัจจุบันก็ยังมีคนที่เล่าว่าพบเห็นกันจนกลายเป็นข่าวมากมาย ทำให้คนต่างไปพิสูจน์ตามหาความจริงกันอย่างมากมาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครที่สามารถบอกได้ว่าผีโพงนี้มีจริงหรือเป็นเพียงเรื่องราวที่ถูกแต่งขึ้นมาเท่านั้นนั่นเอง
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับสายมู ความเชื่อ และโชคลาภอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้