อาจารย์เปล่ง บุญยืน จอมขมังเวทย์ แห่งแดนอีสาน

อาจารย์เปล่ง บุญยืน จอมขมังเวทย์ แห่งแดนอีสาน

อาจารย์เปล่ง บุญยืน จอมขมังเวทย์แห่งแดนอีสาน ในสมัยก่อนนั้นหลายๆท่านอาจจะเคยดูภาพยนตร์เรื่องจอมขมังเวทย์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง และ เรื่องราวของภาพยนตร์ที่จะพูดถึงการใช้คาถาอาคมในการต่อสู้ต่างๆอย่างตื่นตาตื่นใจ แต่ในโลกของความเป็นจริงนั้นจอมขมังเวทย์ที่มีชื่อเสียงและถูกบันทึกไว้ในสมัยก่อนส่วนมากจะอยู่ในเขตภาคกลาง แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า ที่แดนอีสาน จังหวัดสุรินทร์ ก็มีจอมขมังเวทย์ที่มีชื่อเสียง เช่นเดียวกัน นั่นคือ อาจารย์ เปล่ง บุญยืน ฆราวาสจอมขมังเวทย์

และในวันนี้ นงน้อย.com เว็บอัพเดพข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ

ประวัติ อาจารย์เปล่ง บุญยืน  

อาจารย์ เปล่ง บุญยืนท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 7 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2460 ณ บ้านท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เด็กชายเปล่งนั้นเมื่อวัยเด็กก็มีชีวิตเฉกเช่นเดียวกับเด็กในวัยเดียวกัน จนเมื่อถึงคราวครบอายุบวชตามประเพณีของชายไทย นายเปล่งจึงได้บวชเข้าสู่บวรพระพุทธศาสนาปฏิบัติภารกิจเฉกเช่นพระรูปอื่นๆ จนท่านได้มีโอกาสติดตามพระอาจารย์ภาออกธุดงค์ไปในป่าลึกทั่วเขตบริเวณทั้งประเทศลาว และประเทศเขมรยาวนานกินเวลานานถึง 9 ปีเต็มและท่านก็ได้เรียนวิชาอาคมต่างๆจากพระอาจารย์ภา จนหมดสิ้นไม่ว่าจะเป็น วิชาคงกระพันชาตรีต่างๆ วิชาว่านยา วิชาอาคมทางด้านพราย วิชาเมตตามหานิยม ก่อนที่ท่านจะลาสิกขาบท เข้าสู่เพศฆราวาสดังเดิมในปี พุทธศักราช 2492 หลังจากนั้นท่านก็มุ่งมั่นที่จะเป็นครูสอนหนังสือนักเรียน จากนั้นไม่นานห่างจากการลาสิกขาของท่านเพียง 6 เดือน ท่านก็ได้สอบบรรจุเป็นครูใช้ชีวิตข้าราชการครูจนเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้บริหารของโรงเรียนมัธยม ชีวิตของท่านในช่วงนี้จึงไม่ได้แตกต่างจากชีวิตของฆราวาสทั่วไปแต่อย่างใด

อาจารย์เปล่ง บุญยืน จอมขมังเวทย์ แห่งแดนอีสาน

ฆราวาสจอมขมังเวทย์ 

ขึ้นชื่อว่าวิชาอาคม เวทย์มนตร์คาถา เมื่อเรียนมาแล้วนั้นก็ต้องใช้ ในขณะที่ท่านรับราชการครูอยู่นั้น ก็มีเหตุให้ท่านได้ใช้วิชาสงเคราะห์ผู้อื่นอยู่เป็นเนืองๆเช่นทำให้เพื่อนครูนั้นสมหวังในความรัก แต่ท่านมิได้ทำอะไรมากด้วยเกรงว่าจะเป็นข้อครหาต่อเพื่อนครูด้วยกันว่าท่านงมงาย แต่เมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ชื่อของฆราวาสจอมขมังเวทย์ จังหวัดสุรินทร์จึงได้เริ่มกระฉ่อนออกไป มีหลายเหตุการณ์หลายกรณีที่ทำให้ชื่อเสียงของท่านนั้นเป็นที่เลื่องลือ เช่นในสมัยก่อนพื้นที่ในแถบจังหวัดสุรินทร์เป็นพื้นที่ที่พบเห็นงูได้บ่อยมาก ทำให้มีเด็กบางคนถูกงูกัด แล้วด้วยความว่าการเดินทางในสมัยก่อนยังไม่มีความรวดเร็วและสะดวกสบายเหมือนในทุกวันนี้ พ่อแม่ของเด็กที่ถูกงูกัด ไม่สามารถนำลูกไปหาหมอได้ทันจะนำมาหาท่านด้วยความเมตตาและวิชาอาคมที่เรียนมาท่านจะเปล่าจะพ่นให้ทุกครั้ง เด็กที่ถูกงูกัด หากมาหาท่านรอดตายทุกราย จึงเกิดการบอกเล่าปากต่อปากกันไป และ ท่านก็ได้สร้างวัตถุมงคลครั้งแรก เป็นพระพิมพ์ขุนแผน ซึ่งเด่นในด้านเมตตามหาเสน่ห์ ซึ่งส่วนผสมในการสร้างพระพิมพ์ดังกล่าว จะมีว่าน108 ที่ท่านได้ร่ำเรียนมา ไม่ว่าจะเป็น พญากาหลง พญางิ้วดำ เครือเขาหลง พญาสาริกา พญาตะเคียนหิน ผงกุมารีแฝด ผงจินดามณี กาฝาก108 และยังมีผงพุทธคุณอื่นๆอีกมากมาย และท่านเองก็ใช้เวลาปลุกเสกนานถึง 3 เดือนเพื่อให้ขุนแผนของท่านขลังและศักดิ์สิทธิ์ ชื่อเสียงของท่านก็ยิ่งเผื่อไปไกลในฐานะของ ฆราวาสจองขมังเวทย์ มีหลายครั้งที่พระในวัดต่างๆจะมาขอให้ท่านสร้างวัตถุมงคลให้เพื่อที่วัดจะนำไปจำหน่ายและนำปัจจัยมาใช้ในการซ่อมแซมบูรณะวัด อาจารย์ เปล่ง บุญยืน ท่านก็ช่วยด้วยความเต็มใจมิได้อิดออดแต่อย่างใด ทำให้ชื่อเสียงของฆราวาส จอมขมังเวทย์ จังหวัดสุรินทร์นั้นยังคงเป็นที่พูดถึงอยู่จนมาถึงปัจจุบัน 

สรุป

อาจารย์ เปล่ง บุญยืน ด้วยความสามารถทางจิต และ วิชาอาคมที่ท่านได้ร่ำเรียนมานั้นท่านจะเสกจะทำอะไรจะขลังจะศักดิ์สิทธิ์และเห็นผลไปหมดไม่ว่าชาวบ้านใกล้ไกลมาหาท่านขอให้ท่านช่วยเหลืออะไรในเรื่องที่ถูกที่ควรท่านจะพร้อมยินดีและช่วยเหลืออยู่เสมอมิได้ขาดตกบกพร่อง ท่านจึงเป็นที่รักใคร่มาจนถึงทุกวันนี้ อาจารย์เปล่ง ได้ถึงแก่กรรม ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ด้วยอาการ ปอดบวมรุนแรง เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2552 สิริรวมอายุ 87 ปี แม้ท่านจะถึงแก่กรรมไปแล้ว แต่ถ้าหากพูดถึงฆราวาสจอมขมังเวทย์ ของจังหวัดสุรินทร์ไม่มีใครไม่คิดถึงท่านแน่นอน

ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อต่างๆอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้