ส่องของดี ของขลัง ของวิเศษประจำตัวขุนแผน
ส่องของดี ของขลัง ของวิเศษประจำตัวขุนแผน ถ้าหากจะกล่าวถึงวรรณคดีหนึ่งเรื่องที่ส่งผลต่อความเชื่อของคนในสมัยปัจจุบันมากที่สุด 1 เรื่องคงหนีไม่พ้นวรรรกรรมเรื่อง ขุนช้างขุนแผน เพราะในเรื่องของขุนช้างขุนแผนนั้น จะมีการกล่าวถึงของวิเศษสองสามอย่างที่ พลายแก้วมีติดตัว และหนึ่งในของวิเศษที่ เป็นที่ยอดฮิตจนมาถึงในปัจจุบันนั่นคือ กุมารทอง เพราะฉะนั้นหากจะกล่าวว่าเป็นวรรณกรรมที่ส่งผลต่อความเชื่อในยุคปัจจุบันนั้นมิได้เป็นการกล่าวอย่างเกินจริงแต่อย่างใดเลย และนอกจากกุมารทองแล้ว ขุนแผน หรือ พลายแก้ว นั้น ยังมีของวิเศษอีกสองอย่าง ติดตามได้จากในบทความครับ
นงน้อย.com เว็บอัพเดพข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ
ข้อมูลเบื้องต้นวรรณกรรม เรื่องขุนช้างขุนแผน
วรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน เป็นนิทานมหากาพย์พื้นบ้านของไทนที่มีการสันนิษฐานกันว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 กษัตริย์องค์ที่ 10 แห่งราชอาณาจักรอยุธยา ซึ่งเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถผู้ตรากฏหมายตราสามดวงขึ้นมา นิทานเรื่องนี้คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นจากเรื่องจริงแล้วดัดแปลงให้กลายเป็นนิทาน เพราะเรื่องราวเหล่านี้มีการปรากฏในหนังสือคำให้การชาวกรุงเก่า รายละเอียดและเรื่องราวต่างๆในขุนช้างขุนแผนนั้นยังบ่งบอกได้ถึง ขนบธรรมเนียมประเพณีความเชื่อ และ การดำรงชีวิตในสมัยนั้นได้อีกด้วย แต่ด้วยการเวลานั้นทำให้เนื้อเรื่องของขุนช้างขุนแผนในบางตอนได้ขาดหายไปและถูกแต่งเมเติมเข้าไปใหม่ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2
เนื้อเรื่องพอสังเขป
เนื้อเรื่องของวรรณกรรมเรื่องขุนช้างขุนแผน กล่าวถึงเรื่องราวของ พลายแก้วผู้ที่มีใบหน้าที่หล่อเหลามีความเป็นเลิศด้านคาถาอาคมแต่ก็มีความเจ้าชู้ และนางพิมพิลาไลยที่มีความงามเป็นเลิศ และมีใจให้แก่พลายแก้วและกันแต่งงานกัน แต่ด้วยความสวยงามของนางพิมพิลาไลย ทำให้เป็นที่หมายปองของขุนช้าง ที่บ้านมีฐานะร่ำรวย พลายแก้วและนางพิมพิลาไลย หรือ นางวันทองนี้ ได้มีการปลูกต้นมะเขือเสี่ยงทายว่าถ้าพลายแก้วไปออกรบแล้วตายต้นมะเขือนี้จะเหี่ยวและตายไป ขุนช้างรู้เรื่องดังกล่าวจึงออกอุบาย นำน้ำร้อนมารดแล้วบอกนางวันทองพร้อมฉุดนางไปเป็นเมียโดยที่นางไม่ได้สมยอม และ ก็เกิดการแย่งชิงนางขึ้นจนเรื่องรู้ถึงหูของพระพันวษา ในตอนแรกนั้น พลายแก้วจะชนะคดีอยู่แต่ แต่ก็มีเหตุให้ต้องติดคุกนานถึง 12 ปี จนทะเลาะกันไปปกันมาจนทำให้นางวันทองถูกประหารชีวิต และในเรื่องราวนั้นยังมีการกล่าวถึงการใช้วิชาอาคม รวมไปถึงของวิเศษ 3 อย่างของขุนแผน นั่นคือ
ของวิเศษ 3 อย่างของขุนแผน
1. ม้าสีหมอก ยอดนักรบต้องมีสุดยอดอาชา เฉกเช่น ลิโป้ กวนอู ต้องมีเซ็กเธา ขุนแผนเองก็ต้องมี สีหมอกโดยสีหมอกนั้นเป็นม้าขุนศึก ที่ดุร้ายและเกเรดูแลยากแม่ของสีหมอกเป็นม้าเทศจากเมืองมะริด ส่วน พ่อนั้นเป็นม้าน้ำสีหมอกเกิดเมื่อวันเสาร์ขึ้น 9 ค่ำ นัยตาของสีหมอกเป็นสีดำสนิท หลวงทรงพล ผู้ที่ฝึกม้านั้นถึงกับส่ายหน้าให้กับความพยศและดูแลยากของสีหมอก แต่เมื่อพลายแก้วเดินมาเห็นสีหมอกจึงรู้ว่าเป็นม้าศึกโดยแท้จึงขอซื้อจากหลวงทรงพล หลวงทรงพลก็มิได้ขัดข้อง เพราะถ้าหากนำสีหมอกไปฝึกกระบวนทัพก็เกิดปัญหา เพราะเกเรและดุร้าย เมื่อตกลงราคากันแล้วพลายแก้วจึงเสกหญ้าให้สีหมอกกิน สีหมอกจึงเชื่องและยอมรับพลายแก้วเป็นเจ้านายเท่านั้น
2. ดาบฟ้าฟื้น เป็นอาวุธประจำตัวของพลายแก้วตำราการสร้างนั้นกล่าวว่าทำมาจากโลหะ 108 หลอมได้ยากมากการจะหลอมขึ้นมาต้องเป็นผู้มีอาคมแก่กล้าและต้องทำพิธีอย่างรัดกุม ซึ่งคาถาและตำราการสร้างค่อนข้างซับซ้อน เวลาที่ใช้งานเมื่อชักออกจากฝักจะมีเมฆหมอก และเมื่อฟันออกไปนั้นจะมีเสียงฟ้าผ่า ด้วยเหตุที่สร้างจากเหล็กอาถรรพ์ทำให้มีคาถาในการปราบภูตผี และเรียกใช้ผีได้ด้วย
3. กุมารทอง กุมารทองเป็นลูกแท้ระหว่างขุนแผนและนางบัวคลี่ ขุนแผนได้ทำพิธีผ่าท้องนางบัวคลี่ และเอาลูกของตนออกมาเพื่อทำกุมารทอง โดยหน้าที่ของกุมารทองนั้นจะต่างจากผีโดยทั่วไปเพราะ กุมารทองมีฤทธิ์สามารถทำสิ่งต่างๆได้ อีกทั้งยังสามารถห้ามพ่อได้หากพ่อจะทำสิ่งที่ไม่ดีไม่ควร
สรุป
ในปัจจุบัน ความเชื่อในเรื่องของการทำกุมารทองนั้นไม่ได้หายไปจากสังคมไทยเลย และยังเชื่อกันอีกว่า ผู้ที่สร้างกุมารทองคนแรก คือขุนแผน และสุดท้ายนั้นของวิเศษดังกล่าวจะเป็นเรื่องจริงมั้ย ไม่มีใครทราบได้ เพราะฉะนั้นการอ่านเพื่อความบันเทิง จึงเป็นการดีที่สุด ไม่ควรแสวงหาของวิเศษใดๆมาครอบครองเพราะท่านอาจจะต้องระวังการโดนหลอกโดยมิจฉาชีพไว้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยว โชคลาภ ให้ท่านได้อ่าน