ยักษ์แบกเสา เปิดตำนานอาถรรพ์ดอนเมืองโทลเวย์ ถนนวิภาวดีรังสิต
ถ้าพูดถึงยักษ์แบกเสาเชื่อว่าหลายคนคงเคยพบเห็นกันมาบ้าง ในขณะเดินทางผ่านถนนโทลเวย์ที่อยู่กลางกรุงเทพ ซึ่งว่ากันว่าที่มาของยักษ์สองตนนี้เกิดจากอาถรรพ์และเรื่องราวจะเป็นอย่างไรจะมีที่มาที่ไปอย่างไร ในบทความนี้จะมาบอกเล่าเรื่องราวในส่วนนี้ให้ได้รับรู้กันนั่นเอง
เว็บอัพเดทข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com
ศิลปะยักษ์แบก
ศิลปะยักษ์แบกหรือว่ามารแบก เป็นศิลปะปูนปั้นประดับอาคารที่พบครั้งแรกในสมัยอยุธยา แล้วก็พัฒนามาเป็นยักษ์แต่งกายแบบโขนในสมัยรัตนโกสินทร์ ซึ่งมักจะสร้างไว้รอบฐานของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเปรียบเสมือนเขาพระสุเมรุที่เป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลแบบไตรภูมิพระร่วง ซึ่งศิลปะยักษ์แบกหรือมารแบก ที่เราพอจะเห็นได้ก็จะมีตรงพระปรางค์ของวัดอรุณวราราม โดยจะมียักษ์แบกอยู่ชั้นล่างสุด แล้วก็ลิงแบกอยู่เหนือขึ้นมา ต่อมาก็เทวดาแบกจะอยู่ชั้นบนสุด ขึ้นไปตรงสวนเรือนทาสของพระปรางค์หรือว่ายอดเขาพระสุเมรุ อันเป็นที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในไตรภูมิตรงส่วนนั้นถ้าสังเกตดี ก็จะเห็นรายละเอียดของซุ้มประตูซึ่งประดับด้วยปูนปั้นรูปพระอินทร์ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จะมีลักษณะทรงช้างเอราวัณอยู่นั่นเอง แต่เรื่องราวของยักษ์แบกที่ควรจะอยู่รอบๆสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น กับพบว่ามียักษ์แบกอยู่สอนตนที่มาปรากฏอยู่ตรงถนนวิภาวดีรังสิตนั่นเอง
ยักษ์แบกเสาถนนวิภาวดีรังสิต
ขณะขับรถผ่านถนนวิภาวดีรังสิตเราจะสังเกตเห็นเสาของโทเวย์ 2 ต้นที่แตกต่างไปจากเสาต้นอื่น เพราะว่าเสา 2 ต้นนี้มันมีรูปปั้นยักษ์แบกยืนทำท่าเหมือนกำลังแบกเสาของโทเวย์อยู่นั่นเอง ซึ่งต้นแรกนั้นจะตั้งอยู่ทางลงสะพานข้ามแยกสุทธิสารฝั่งขาออกแล้วก็อีกตนจะอยู่ทางลงสะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าวฝั่งขาเข้า ซึ่งเรื่องราวของยักษ์แบกเสาสองตนนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้วเคยเป็นข่าวฮือฮากันมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งบางคนก็คงพอจะรู้ที่มาที่ไปของยักษ์สองตนนี้มาบ้างแล้ว แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าเสาทั้งสองต้นนี้มีตำนานอาถรรพ์ที่ถูกร่ำลือมาตั้งแต่เริ่มการก่อสร้าง จนเป็นที่มาของการสร้างยักษ์แบกเสา สองตัวนี้ขึ้นมานั่นเอง
เรื่องรางอาถรรพ์
เรื่อราวเกิดขึ้นเมื่อปี พ. ศ. 2535 หลังจากมีการเริ่มก่อสร้างดอนเมืองโทลเวย์ขึ้น ซึ่งในระหว่างการก่อสร้าง เกิดอุปสรรคขึ้นมากมาย งานก่อสร้างไม่ราบรื่นจนกระทั่งถึงช่วงที่จะต้องทำการยกเสาต้นดังกล่างขึ้น ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถยกเสาต้นนี้ขึ้นได้เพราะเมื่อสร้างมาถึงแยกลาดพร้าว ก็จะต้องสร้างทางยกระดับที่เหินข้ามแยกลาดพร้าวแต่พอสร้างเสาคานได้ไม่กี่วัน มันก็พังลงมาทับคนตาย และเกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่หลายครั้งทั้งที่ทำถูกต้องตามหลักวิศวกรรมทุกอย่าง และในการก่อสร้างก็ยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรค จึงได้มีผู้แนะนำให้ปั้นรูปยักษ์ แบกเสาเพื่อแก้เคล็ดนั่นเอง เมื่อมีผู้แนะนำทางโครงการจึงได้ขอให้กรมศิลปากรช่วยปั้นยักษ์แบกสองตนนี้ขึ้นมา โดยการแกะสลักยักษ์ทำท่าแบกเสาตามที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ หลังจากที่สร้างยักษ์ แบกเสาสองตนเสร็จก็ปรากฏเรื่องน่าเหลือเชื่อขึ้นอย่างมาก เพราะเมื่อแกะสลักรูปยักษ์เสร็จเสาต้นที่ว่ายกยังไงก็ยกไม่ขึ้นนั้น ก็กับยกขึ้นได้แบบง่ายดายสถานะทางการเงินของโครงการก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ไม่ค่อยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ด้วยนั่นเองและนี่คือตำนานอาถรรพ์ที่ถูกเล่ากันมา แต่ก็ยังมีคนในพื้นที่บางส่วนที่เล่าแตกต่างกันอยู่ว่าแท้จริงแล้วการสร้างยักษ์ แบกเสานั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวอาถรรพ์แต่ยักษ์สองตนนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของไทยที่เชื่อว่ายักษ์สองตนนี้จะช่วยอุ้งชูให้ประเทศไทยเติบโตไปอย่างมั่นคงแข็งแรงนั่นเอง
ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ
ซึ่งจากข้อมูลประวัติเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุในการก่อสร้างในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่ามีการเกิดอุบัติเหตุแล้วก็เสียชีวิตเกิดขึ้น ในช่วงของการก่อสร้างโทลเวย์บริเวณห้าแยกลาดพร้าวในปี 2535 เกิดขึ้นจริง แต่อาจจะไม่ได้มีจำนวนมากอย่างที่เขาร่ำลือกันโดยเดือนมกราคมปี พ.ศ. 2538 ระบุว่าระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2535 นั้นเกิดอุบัติเหตุขึ้นทั้งหมด 40 ครั้ง แยกเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการสร้างทางทั้งหมด 13 ครั้ง แล้วก็เกิดจากการค้นสิ่งของก่อสร้างหรือสิ่งของร่วงหล่น 27 ครั้ง ซึ่งมีผู้ถึงแก่ความตาย 2 ราย และก็บาดเจ็บสาหัส 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 รายนั่นเอง สำหรับอุบัติเหตุครั้งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมปี พ. ศ. 2535 ตรงบริเวณหน้าสำนักงานใหญ่ของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีรถคันหนึ่งพุ่งชนรถเครนที่จอดทำงานอยู่ในพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง แล้วเมื่อนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแต่ทว่าผู้บาดเจ็บนั้นได้เสียชีวิตระหว่างทาง ส่วนรายที่ 2 ของการเสียชีวิต เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2535 บริเวณทางลงเชิงสะพานลอยลาดพร้าว ซึ่งเกิดมาจากเหตุการณ์เหล็กหล่นลงมาทับรถยนต์ส่วนบุคคล ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย และนี้ก็คืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตรงบริเวณห้าแยกราดพร้าง ส่วนตรงทางลงสะพานข้ามแยกสุทธิสารฝั่งขาออกที่มียักษ์อยู่อีกตน ตรงจุดนั้นก็มีข่าวการเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2536 โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคมปี พ.ศ. 2536 ซึ่งตรงบริเวณหน้าสถานีกรมประชาสัมพันธ์มีรถแท็กซี่คันหนึ่ง ได้ชนรั้วซึ่งตั้งอยู่เกาะกลางถนนทำให้ผู้ขับขี่เสียชีวิตทันที ซึ่งรวมแล้วมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 3 รายตรงบริเวณจุดที่มีการสร้างยักษ์ แบกเสาทั้งสองตนนั่นเอง ซึ่งข้อเท็จจริงตรงส่วนนี้ทำให้ผู้คนต่างพากันเชื่อว่านี้คืออาถรรพ์ของยักษ์ แบกเสาสองตนนี้นั่นเอง
สรุป
อาถรรพ์ยักษ์ แบกเสาถนนโทเวย์เป็นเรื่องราว ของความเชื่อและอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นในระหว่าการก่อสร้างถนนเส้นนี้ขึ้นมา เพราะการสร้างที่เกิดปัญหาอยู่บ่อยครั้งและมักจะเกิดอุบัติเหตุรวมถึงเรื่องราวแปลกๆขึ้น ในการก่อสร้างจึงได้ทำการปั้นรูปปั้นยักษ์ แบกเสาขึ้นมา ทำให้พอมีการปั้นรูปปั้นนี้ขึ้นมาทุกอย่างกับกลายเป็นง่ายการก่อสร้างกับทำได้อย่างราบรื่น ส่วนอุบัติเหตุก็ลดน้อยลงหรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ทำให้คนในพื้นที่เชื่อว่านี้จะต้องเป็นอาถรรพ์อย่างแน่นนอนนั่นเอง
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติ ตำนาน ความเชื่อ และโชคลาภอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้