พระอุ้มหมา ชีอุ้มแมว เรื่องเล่าอาถรรพ์ ตำนานหลอน
เรื่องเล่าอาถรรพ์ ตำนานหลอน ตำนานเรื่องเล่าสยองขวัญในประเทศไทยนั้นมีหลายเรื่องราว แต่เรื่องที่ยังคงได้รับความสนใจมาตลอดนั้นคงหนีไม่พ้นตำนานพระอุ้มหมาชีอุ้มแมว หากใครเห็นเป็นอันต้องตาย
เว็บอัพเดทข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com
ตำนาน พระอุ้มหมา ชีอุ้มแมว
มีเรื่องเล่าอย่างแพร่หลายในฝั่งภาคอีสานของประเทศไทยว่า เคยมีผู้พบเห็นพระสงฆ์อุ้มหมาและแม่ชีอุ้มแมวดำเดินไปตามถนนของหมู่บ้านในช่วงมืดค่ำจนถึงตี่สี่นั้นถ้าใครเห็นแล้วร้องทักขึ้นมาผู้นั้นจะมีอันเป็นไป มีหลายเรื่องเล่าในทำนองเดียวกันนี้ เช่นหมู่บ้านหมู่บ้านหนึ่งมีข่าวลือหนาหูว่ามีผู้พบเห็นพระสงฆ์ใส่จีวรสีส้มเลอะๆ เดินคู่มากับแม่ชีนุ่งขาวห่มขาวแต่อุ้มแมวดำเดินอยู่กลางถนนหมู่บ้าน จนหมาหอนระงมไปทั่ว และมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งได้ยินเสียงหมาหอนจนนอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นมาแอบดูตามรูรั่วของผนังบ้านเมื่อส่องเข้าไปเด็กคนนั้นได้เห็นพระและแม่ชีจึงร้องทักและรีบปลุกแม่ของตนมาดูแต่เมื่อแม่ของตนลุกขึ้นมาดูปรากฏว่าแม่ของตนไม่เห็นอะไร จากคืนนั้นเมื่อตื่นเช้ามาปรากฏว่าเด็กคนนั้นก็นอนแข็งตายเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ และไม่พบเครื่องในภายในร่างกายของเด็กคนนั้น หรือจะเป็นอีกเรื่องที่ในสมัยก่อนตามหมู่บ้านในชนบทนั้นมีผัวเมียคู่หนึ่งปลูกบ้านอยู่ในชนบท ปรากฏว่าตอนกลางคืนมีพระกับแม่ชีมาเคาะบ้านเรียกชื่อของผู้เป็นสามีแต่ภรรยากลับเห็นสามีเปิดประตูคุยกับความว่างเปล่า และเมื่อสามีกลับมานอนผู้เป็นภรรยาจึงถามว่าคุยกับใครสามีจึงตอบว่าพระกับแม่ชี และเมื่อตื่นมาตอนเช้าปรากฏว่าผู้เป็นสามีนอนแข็งตายไม่หายใจ
ความเชื่อเรื่องตำนานดังกล่าว
ตำนานนี้มีความเชื่อว่าพระและแม่ชีดังกล่าวคือหมอผีที่เรียนวิชาไสยศาสตร์จากฝั่งเพื่อนบ้าน แล้วด้วยการผิดครูทำให้ไสยศาสตร์มนตร์ดำนั้นกลับเข้าตัวทำให้วิชาอาคมที่ได้เรียนมานั้นแตกซ่านทำให้ผู้ที่เรียนไสยดำจนกลายเป็นปอบ และโดนคนมีวิชาอาคมจากฝั่งเพื่อนบ้านขับไล่ออกมาทำให้ต้องเปลี่ยนที่หากินโดยการข้ามน้ำมายังฝั่งไทยจึงเป็นเหตุให้เกิดตำนานเรื่องราวความหลอนที่ถูกเล่าขานจนไม่รู้จบจวบจนปัจจุบัน
ตำนานอ้างอิงค์ความจริง
ในทางความเชื่อและตำนานที่ถูกเล่าขานเราอาจจะได้ยินเรื่องราวแบบนี้ในทางความหลอนแบบสิบกะโหลก แต่ถ้าหากมาย้อนมองตามหลักความเป็นจริงแล้วนั้นอาจจะได้เหตุที่ทำให้เกิดตำนานความหลอนได้ดังนี้
กุศโลบายของคนโบราณ
ในสมัยก่อนหากย้อนกลับไปประมาณ50ปีข้อมูลข่าวสารยังไม่มีการเชื่อมโลกถึงกันและกันระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานยังไม่มีเหมือนปัจจุบันผู้คนในชนบทอยู่กันแค่หมู่บ้าน มีหัวหน้าหมู่บ้านคือผู้ใหญ่บ้านที่คอยปกครองกัน ดังนั้นการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องอาจจะมีการแต่งเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนรีบล็อกบ้านนอนเพราะตอนกลางคืนไม่มีไฟฟ้ามีแค่แสงตะเกียง จะเป็นอันตรายหากออกมาภายนอกบ้าน
คนร้ายนำกุศโลบายมาใช้เพื่อทำความผิด
ย้อนกลับไปสมัยก่อนนั้นยาเสพติดในทุกท้องที่ยังคงชุกชุมพ่อค้ายาเสพติด ต้องการที่จะนัดส่งของกันในช่วงเวลากลางคืนจึงออกอุบายดังกล่าวให้คนไม่กล้าออกจากบ้าน หากใครออกมาก็เกิดการอุ้มฆ่าเพื่อเป็นการอำพรางศพจึงโยนความผิดไปว่าเป็นฝีมือของปอบ
ตำรวจใช้ตำนานสืบคดี
อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นว่าสมัยก่อนนั้นยาเสพติดในประเทศไทยชุกชุมในทุกพื้นที่ทำให้เหล่าสายตรวจสายสืบต้องการที่จะสืบคดีพ่อค้ายารายใหญ่จึงลงทุนปลอมตัวเป็นพระและแม่ชีเพื่อเข้าไปในพื้นที่และสืบคดีดังกล่าว
หมอสร้างเรื่อง
ในสมัยก่อนนั้นการตรวจสอบของวงการการแพทย์นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากจึงเกิดช่องโหว่ทางอาชีพของแพทย์ที่ต้องการนำอวัยวะภายในไปขายและทำเงินจึงกุเรื่องราวเหล่านั้นขึ้นและกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าตนเองโดยที่ไม่มีผู้ใดสามารถตามจับได้
สรุป
สุดท้ายนี้ตำนานความหลอนดังกล่าวยังไม่มีใครออกมาพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริง และ ข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุของตำนานดังกล่าวก็ไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้ว่าเรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริง ดังนั้นก่อนที่เราจะมีความเชื่อกับสิ่งใดต้องฟังหูไว้หูและใช้ปัญญาพิจารณามากขึ้น
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติ ตำนาน ความเชื่อ และโชคลาภอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้