ผีปู่ตา วิญญาณผู้ปกปักษ์รักษา

ผีปู่ตา วิญญาณผู้ปกปักษ์รักษา

เชื่อว่าหลายๆคนในภาคอีสาน คงเคยได้ยินคำว่าผีปู่ตากันบ้าง บางคนอาจจะเคยได้สัมผัสกับการทำพิธีกรรมการไหว้ผีปู่ตา วันนี้เราไปดูกันว่า ผีปู่ตา มีความสำคัญอย่างไรกับคนอีสานทำไมถึงให้ความเคารพบูชา บทความนี้มีคำตอบ

อัพเดทเว็บข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com

ที่มาของผีปู่ตา

ผีปู่ตา คือ คือผีประจำหมู่บ้าน หรือผีบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ปู่คือวิญาณทางพ่อ ตาคือวิญญาณทางแม่ ที่คอยปกปักรักษาหมู่บ้าน ในอดีตในภาคอีสานทุกหมู่จะมี ดอนผีปู่ตา คนอีสานเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพราะมีผีบรรพบุรุษอาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนั่น

ชาวบ้านจึงได้ร่วมใจกันสร้างตูบ หรือ หอ ให้ผีปู่ตาอาศัยอยู่สถานที่แห่งนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ห้ามละเมิดเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าหรือพูดจาหยาบคายภายในพื้นที่ดอนผีปู่ตาเป็นอันขาด เนื่องจากจะเกิดภัยอันตรายกับตนได้  ด้วยเหตุนี้ดอนผีปู่ตา จึงเป็นกลายเป็นป่าขนาดเล็กๆที่คนในหมู่บ้านหวงแหน อีกทั้งยังเชื่อว่าผีปู่ตาเป็นผีที่คุ้มครองชาวบ้านให้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีเรื่องให้เดือดเนื้อร้อนใจ และยังช่วยคุ้มครองชาวบ้านที่จากไปทำงานนอกบ้านเป็นเวลานาน ๆ

 

ความเชื่อเรื่องผีปู่ตา

 ผีปู่ตาคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนอีสานมีความเชื่อบูชามาอย่างช้านาน และยังส่งมอบความเชื่อนี้มารุ่นต่อรุ่นจนถึงปัจจุบัน และมีการปฏิบัติยืดถือกันอย่างเคร่งครัด เนื่องจากการยืดถือปฏิบัตินี้ เชื่อว่าผีปู่ตาจะช่วยให้คนในหมู่บ้านอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข   

และยังมีการบ๋าหรือขอพรในกรณีต่างๆ ของคนในหมู่บ้าน จะนำโดยเฒ่าจ้ำที่จะเป็นผู้ทำพิธีกรรมในการขอพร ชาวบ้านที่มาขอพรจะมีตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงคนที่กำลังจะเดินทางไกล ทั้งไปทำงาน หรือไปเรียนในต่างหวัด ก็จะมาขอพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องของการเรียน การทำงาน การค้าขาย หากสิ่งที่ขอนั้นประสบความสำเร็จ ก็จะมีการแก้บนตามที่ได้กล่าวไว้ เช่น ขอแก้ด้วยเป็ด ไก่ 

หัวหมู น้ำแดงหรือเหล้า หากเรื่องที่ขอเป็นเรื่องใหญ่ เช่น การขอให้ได้ เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือนายกอบต. ก็อาจมีการแก้บนด้วย หมอลำ หรือหนังกลางแปลง

ผีปู่ตา วิญญาณผู้ปกปักษ์รักษา - ล็อตโต้สด59

ประเพณีการเลี้ยงผีปู่ตา

การเลี้ยงผีปู่ตาจะมีขึ้นทุกเดือน 6 ของปีหรือเดือนพฤษภาคม โดยจะมีเฒ่าจ้ำประจำหมู่บ้านที่เป็นตัวแทนในการจัดงาน โดยการให้ชาวมาร่วมกันทำพิธีกรรม ได้นำหมู เป็ด ไก่ หรือของเซ่นไหว้ต่างๆมาถวายหรือมาขอพร หรือหากใครที่ไปทำเรื่องไม่ดีหรือผิดผี ก็ให้มีการนำดอกไม้ธูปเทียนเพื่อไปขอขมาต่อผีปู่ตา บางหมู่บ้านที่มีขนาดใหญ่อาจจะมีมหรสพด้วย พอถึงวันทำพิธีกรรมเฒ่าจ้ำจะเป็นตัวแทนในการสื่อสารกับผีปู่ตา ในการขอพรต่างๆ เช่นขอให้หมู่บ้านมีแต่ความสงบสุข ให้คนในหมู่บ้านมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง คนที่ไปไกลจากบ้านก็ขอให้ผีปู่ตาช่วยปกปักรักษาให้ปลอดภัย เป็นต้น

 

การเสี่ยงทายของผีปู่ตา

หลังจากเสร็จพิธีกรรม จะมีการเสี่ยงทายโดยใช้ การจุดบั้งไฟ การแทกวัดไม้วา
(แทกภาษาอีสานคือการเอามาเปรียบเทียบ) กับวาของเฒ่าจ้ำ หากไม้ยาวกว่า แปลว่า ฝนจะดี หากไม้สั้นกว่า แปลว่า ฝนจะน้อย แต่ที่เป็นที่นิยมคือการทายด้วยกระดูกคางไก่ โดยใช้ไก่ 3 ตัวในการทำนาย 3 เรื่อง คือเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ เรื่องสภาพอากาศฟ้าฝน และเรื่องสัตว์เลี้ยง พืชพันธุ์ต่างๆทั้งหมดนี้จะทำนายได้จากคางไก่ทั้ง 3 ตัว แต่ละตัวก็จะทำนายกันคนละเรื่อง การทำนายลักษณะคางไก่ จะดูลักษณะตามนี้

  1. หากคางไก่เป็นสีขาว จะทำนายได้ว่าปีนี้ฝนจะแล้ง
  2. คางไก่มีปลายง่ามห้อยลงไม่เสมอกัน ทำนายได้ว่าในปีนั้นอาจจะเกิดโรคในสัตว์ หากทำนายเกี่ยวกับคนจะทำนายได้ว่า คนในหมู่บ้านจะทะเลาเบาะแว้งกัน ไม่สามัคคี พืชผักไม่อุดมสมบูรณ์
  3. คางไก่มีง่ามที่ยื่นออกมาเสมอกันสวยงาม จะทำนายได้ว่า ในปีในจะมีความอุดมสมบูรณ์ ผู้คนมีความสุขรักใคร่กลมเกลียว
  4. คางมีสีดำ จะทำนายได้ว่า ปีนี้ฟ้าฝนดี พืชผักอุดมสมบูรณ์

เมื่อได้รู้คำทำนายคนอีสานที่ส่วนใหญ่จะมีอาชีพเป็นเกษตรกร ก็จะได้มีการวางแผนในการทำไร่ทำนาเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี

 

สรุป 

ผีปู่ตา วิญญาณผู้ปกปักษ์รักษา แม้ในปัจจุบันนี้การบูชาผีปู่ตา อาจจะพบเห็นได้น้อยลง เนื่องจากความเจริญของผู้คนนั้นได้เข้าไปเบียดเบียนความเชื่อนี้ แต่ก็ยังมีบางกลุ่มคนเช่นผู้เฒ่าผู้แก่ที่ยังให้ความเคารพบูชาและมีความเชื่อ เรื่องผีปู่ตาอยู่จนถึงปัจจุบัน

ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติ ตำนาน ความเชื่อ และโชคลาภอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้