ประวัติความเป็นมาของเสาหลักเมือง
ในปัจจุบันถ้าพูดถึงเสาหลักเมืองผมคิดว่าทุกคนพอคุ้นเคยกับคำนี้ไม่มากก็น้อย แต่คงไม่มากนักที่จะรู้ถึงเบื้องหลังการสร้างหรือประวัติความเป็นมาของเสา หลักเมือง ซึ่งมีความน่ากลัว และมีเรื่องวิญญาณและความเชื่อโบราณเก่าแก่มาเกี่ยวข้อง ในบทความนี้จะเล่าและนำท่านไปรู้จักประวัติการสร้างเสา หลักเมืองโบราณพร้อมกัน
เว็บอัพเดทข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com
ความเชื่อ
ความเชื่อคนโบราณเสา หลักเมืองมีหน้าที่ดูแลและปกป้องรักษาบ้านเมืองเราจากโรคภัยไข้เจ็บจากสิ่งร้ายๆที่จะเข้ามาไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของมนุษย์หรือวิญญาณร้ายเสา หลักเมืองจะมีหน้าที่คอยเตือนเราในรูปแบบต่างๆหรือการแสดงอภินิหารให้เห็นเพื่อเป็นการเตือนว่า จะมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับบ้านเมืองอาจจะเป็นโรคภัยพืชผลเสียหายแม้แต่ฝนตกในตอนกลางวันที่แดดจัดๆหรืออาจจะทำให้ฝูงสัตว์แตกตื่นโดยไม่รู้สาเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผลมาจากการเตือนของ เสา หลักเมือง นั่นเอง
การสร้างเสาหลักเมืองตามพิธีโบราณ
การสร้างเสา หลักเมืองตามพิธีโบราณนั้นคือ
การสร้างโดยการนำมนุษย์เป็นๆโยนลงไปในหลุมที่จะฝังเสา หลักเมือง แล้วตัดเชือกเพื่อให้ทับคนที่อยู่ในหลุมจนเสียชีวิต และให้วิญญาณนั้นสิงอยู่ในเสาเพื่อคอยปกป้องและรักษาบ้านเมือง จากสิ่งชั่วร้ายต่างๆแต่การที่จะหาคนที่เหมาะสมมาทำพิธีนี้ ตามประวัติโบราณกล่าวว่า คนที่จะสละชีวิตต้องมีความจงรักภักดีต่อบ้านเมือง และพร้อมจะปกป้องดูแลบ้านเมือง เมื่อเจ้าเมืองนั้นๆต้องการสร้างเสา หลักเมือง จะสั่งทหารออกไปตามหาบุคคลทั้ง 4 คน โดยทั้ง 4 คนนั้นจะต้องมีชื่อครบทั้ง 4 ชื่อได้แก่ “อิน จันทร์ มั่ง คง” ซึ่งวิธีการหาบุคคลเหล่านี้ทหารก็จะตระเวนไปตามหมู่บ้าน หรือเมืองต่างๆที่ปกครองอยู่ และตะโกนถามว่าใครชื่อนายอิน นายจันทร์ นายมั่ง นายคง ขอให้ขานชื่อตอบรับหน่อย เรามีภารกิจอันทรงเกียรติให้ท่านทำ ซึ่งถ้ามีใครตะโกนตอบรับออกมาว่าเขามีชื่อนั่นคนๆนั้นก็จะถูกจับเข้าวัง เขาเหล่านั้นจะได้รับการปรนนิบัติดูแลอย่างดีอยู่เป็นเวลา 2-3 วัน ก่อนที่คนเหล่านั้นจะถูกผลักให้ตกลงไปในหลุมที่จะฝังเสา หลักเมือง และเพชฌฆาตก็จะตัดเชือดเพื่อให้เสาตกลงมาทับเสียชีวิตคาที่ และพอเสียชีวิตแล้วคนเหล่าจะถูกบังคับให้เป็นวิญญาณที่ค่อยปกป้องรักษาบ้านเมือง วิญญาณนี้จะถูกเรียกว่า “ผีราษฎร”
บันทึกพิธีฝังเสาหลักเมืองของ นาย วันวลิต
นายวันวลิต หรือ Jeremais Van Vliet ชาวฮอลันดา (ฮอลแลนด์ในปัจจุบัน) คือฝรั่งที่เข้ามาประเทศไทยในยุคของพระเจ้าปราสาททองเพื่อศึกษาเรื่องราวต่างๆและเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม โดยในบันทึกนั้นได้กล่าวไว้ว่า พระเจ้าปราสาททองได้มีความคิดที่จะขยายอาณาเขตออกไป และมีความคิดที่จะบูรณะสิ่งต่างๆขึ้นมาพร้อมกับสร้างสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะวัดหรือปราสาทบ้านเมืองต่างๆมากมาย ซึ่งในการที่จะสร้างวัดหรืออะไรก็แล้วแต่ จะมีการสร้างโครงสร้างเสาหลักของสิ่งๆนั้นอยู่ และมีการนำความเชื่อของการสร้างเสา หลักเมืองมาใช้ประกอบพิธี ซึ่งก็คือการนำคนมาสังเวยกับเสาหลักนั้นๆ แต่การที่จะสร้างสถานที่ต่างๆขึ้นมา อย่างน้อยต้องสร้างเสาหลัก 4 เสาซึ่ง4จึงต้องมีการสังเวยชีวิตแน่ๆ 4 คน แต่พระเจ้าปราสาททองต้องการจะสร้างเมืองทั้งเมืองและบูรณะสิ่งต่างๆขึ้นมาเพราะฉะนั้นเลยต้องใช้คนไม่ต่ำกว่า 100 คน หรือมากกว่านั้น แต่ในยุคพระเจ้าปราสาททองมีการเปลี่ยนแปลงพิธีกรรมจากการที่ใช้คนชื่อ อิน จันทร์ มั่น คง ได้เปลี่ยนมาเป็นการใช้ผู้หญิงที่ท้องลูกอยู่ ให้มาทำหน้าที่ตรงนี้แทน เพราะมีความเชื่อว่าผู้หญิงที่กำลังท้องเมื่อถูกบูชายัญจะมีพลังมากกว่าวิญญาณของคนทั่วไป และจะมีความจงรักภัคดีมากกว่า ครั้งหนึ่งได้มีการต่อเติมบ้านเมืองแล้วนำผู้หญิงท้องทั้งหมด 68 คนมาทำพิธี แต่มีคนหนึ่งได้คลอดลูกออกมากะทันหันจนทำให้ผู้ปกครองบ้านเมืองนั้นเกิดสงสารขึ้นมา และแปลกใจว่าทำไมอยู่ดีๆเด็กถึงได้คลอดออกมาได้ทั้งๆที่ยังไม่ครบกำหนด จึงทำให้เกิดความคิดที่ว่าไม่ควรทำพิธีนี้ต่อไปสุดท้ายพิธีกรรมนี้ก็เริ่มจางหายไป หลังจากนั้นได้มีการสร้างหุ่นขี้ผึ้งขึ้นมาแทนการใช้คนเป็นๆ แต่พิธีกรรมส่วนอื่นๆยังคงเดิม และได้สืบต่อมาจนเกิดเป็นเสา หลักเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเอง
สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อขอพร กับเสาหลักเมือง
- ธูป 3 ดอก
- เทียน 1 เล่ม
- ทองคำเปลว/ทองคำแผ่น
- ดอกบัว 2 ดอก
- พวงมาลัย 2 พวง
- ผ้าแพร 3 สี
คาถาบูชาองค์พระหลักเมือง ดังนี้
ท่องนะโม 3 จบ
(แล้วสวดคาถาบูชาองค์พระหลักเมือง)
ศรีโรเมเทพเทวานัง พระหลักเมืองเทวานัง พระภูมิเทวานัง
ทีปธูปจะบุปผัง สักการะวันทนัง สูปพยัญชนะ สัมปันนัง
สารีนัง อุททะกัง วะรัง เตปิตุมเห อานุรักษ์ขันตุ อาโรขเยนะ สุเขนะจะ
หลังสวดคาถาบูชาองค์พระหลักเมืองโดยมากมักจะขอให้ชีวิตราบรื่น มีความมั่งคง มีความสุขสมหวัง พบเจอแต่สิ่งดีๆในชีวิตเพื่อเสริมดวงด้านการเงิน โชคลาภ และสิริมงคลในชีวิตนั้นเอง
บางคนก็นำเลขเมืองเลขธูปหรือตัวเลขต่างๆเพื่อไปเสี่ยงโชคตามความเชื่อของแต่ละบุคคลนั้นจนถึงทุกวันนี้มีคนไปกราบไหว้บูชาเสา หลักเมืองกันอย่างมากมาย
สรุป
เสา หลักเมือง คือสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเหมือนความมั่นคงของเมืองและคอยปกปักรักษาบ้านเมืองนั้น ถึงในอดีตอาจจะมีพิธีกรรมที่นำคนมาสังเวย เพื่อให้เป็นวิญญาณ ที่คอยปกป้องรักษาบ้านเมืองในอดีต แต่ปัจจุบันการที่นำคนมามีสังเวยได้ถูกยกเลิกไป แต่พิธีกรรมยังคงเดิมเพื่อ ไม่ให้เกิดสิ่งชั่วร้ายไม่ว่าจะทางวิญญาณหรือมนุษย์และยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ให้คนมากราบไหว้บูชาและขอพรหรือโชคลาภต่างๆ อีกทั้งยังเป็นสถานที่มีความสิริมงคลอย่างมาก ส่วนใหญ่คนที่ไปไหนมาไหนจะต้องแวะกราบเสา หลักเมืองนั้นๆ เพื่อขอพรให้ตนเองปลอดภัย หรือขอโชคลาภในสิ่งที่ผู้กราบไหว้ต้องการนั้นเอง สุดท้ายไม่ว่าท่านจะเดินทางไปไหนมาไหนถ้าเกิดท่านมีโอกาสผ่านเสา หลักเมืองนั้นๆ ก็ขอให้ท่านแวะกราบสักการะและขอพรเพื่อให้เป็นสิริมงคลกับชีวิตของทางด้วยนะครับ
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติ ตำนาน ความเชื่อ และโชคลาภอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้