ต้นตาล ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน
คุณรู้หรือไม่ว่า ต้นตาลนั้นมีความเป็นมาจากประเทศอินเดีย อีกทั้งยังมีความเชื่ออีกด้วยว่าต้นตาลนั้นเป็นที่สิงสถิตของเหล่าเทวดานางฟ้า ความเชื่อนี้ได้ถูกแพร่หลายมายังวัฒนธรรมไทยในอดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งต้นตาลยังเป็นต้นไม้ที่อยู่คู่กับท้องทุ่งนาของคนไทยมาอย่างยาวนาน นอกจากนั้นยังมีความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา
และสามารถให้โชค ให้ลาภได้อีกด้วย
ก่อนจะไปในส่วนของวันนี้ นงน้อย.com เว็บอัพเดพข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ
ลักษณะของต้นตาล
ต้นตาล เป็นต้นไม้ที่ มีลำต้นแข็งแรง มีอายุยืนยาวประมาณ 80-100 ปี ซึ่งอยู่ในตระกูลปาล์มและมะพร้าว สามารถโตเต็มที่สูงได้ถึง 18 – 25 เมตร ต้นตาลมีชื่อเรียกท้องถิ่นในไทยที่หลากหลายเช่น บักตาล(ภาคอีสาน) ตาลโตนด (ภาคกลาง) ปลีตาล(เชียงใหม่) ลูกโนด (ภาคใต้) เป็นต้น ต้นกำเนิดของต้นตาลนั้นอยู่ในแถบทวีปแอฟริกา จากนั้นได้แพร่หลายเข้ามาในอินเดียตอนใต้ ส่วนที่ประเทศไทยมีต้นตาลนั้นคาดว่าอาจได้รับพันธุ์ต้นตาลมาปลูกเมื่อครั้งที่ทำการค้าขายกับอินเดียในสมัยก่อนสมัยทวาราวดี หรือ พุทธศตวรรษที่ 11 – 16 ต้นตาลเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์เยอะคล้ายกับมะพร้าว ทั้งผล ใบ ลำต้น จึงทำให้คนไทยในสมัยนั้นนิยมปลูกอย่างแพร่หลายเพื่อใช้ประโยชน์มาถึงปัจจุบัน เดิมต้นตาลจะมีมากบริเวณที่เป็นเมืองท่า แต่ต่อมาก็พบในทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย
ประโยชน์ของต้นตาล
- ราก งวงหรือช่อต้นตาล สามารถนำมาต้มกับน้ำดื่ม ช่วยบำรุงกำลัง ช่วยใหสดชื่นแจ่มใส
- รากส่วนที่อยู่เหนือดินหากนำมาต้ม จะมีรสหวานเย็นอมฝาดเล็กน้อย ช่วยลดไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
- เปลือกตาลหรือกะลาตาลนำมาทำเป็นยาลดกรดในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
- จาวตาลอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส สามารถช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- กาบหรือก้านใบไปอังไฟแล้วบีบเอาแต่น้ำมาอม ช่วยแก้อาการปากเปื่อย รวมทั้งรับประทานเป็นยาบรรเทาอาการท้องเสียได้
ความเชื่อของ ต้นตาล
ความเชื่อเรื่องต้นตาล ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อเรื่องนี้มาจากความเกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนา เพราะถือเปรียบเสมือนเป็นลักษณะของการตัดกิเลส ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง ราคะ โทสะ โมหะ ตามที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเคยได้ตรัสไว้ตอนหนึ่งว่า “เมื่อใดก็ตามหากคนเราตัดกิเลสเหล่านี้ได้แล้ว ก็เปรียบเสมือนการตัดยอดตาล ทำให้ต้นตาลด้วนไม่สามารถเติบโตหรือเกิดขึ้นมาได้อีก ความทุกข์ใจทุกข์กายก็เช่นกัน หากเราตัดกิเลสได้แล้ว ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีกเป็นธรรมดา” อีกทั้งใบของต้นตาล ยังถูกใช้ในพิธีกรรมสำคัญต่างๆของพระสงฆ์ หรือที่เรารู้จักรในชื่อ ตาลปัตร นั่นเอง ซึ่งสมัยก่อนใช้เพื่อพัดวีให้เกิดความเย็นระหว่างการทำพิธีของพระสงฆ์ รวมถึงใช้เป็นที่บดบังสายตาของพระสงฆ์ เพื่อไม่ให้เห็นสิ่งที่มิควรเห็น ในปัจจุบันตาลปัตร สามารถแสดงถึงสมณะศักดิ์ของพระสงฆ์รูปนั้น ๆ ได้ ด้วยเหตุนี้ต้นจึงมีความสำคัญตามความเชื่อในทางศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก ถึงแม้ชิ้นส่วนต่างๆของต้นตาล จะถูกนำมาใช้ในศาสนาพุทธ แต่จะไม่นำลูกตาลมาใช้ เนื่องเป็น 1 ในผลไม้ต้องห้าม นั่นก็เพราะลูกตาลมีน้ำตาลซึ่งเป็นเครื่องบูชาเทพเจ้า เป็นอาหารที่ใช้บริโภค และทำเครื่องดื่มมึนเมานั่นเอง
ต้นตาล นอกจากความเชื่อทางพระพุทธศาสนาแล้ว ยังมีความเชื่อเรื่องที่ว่า เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ มีเทวดาสถิตอยู่ที่นั้นด้วย เพราะด้วยความที่ต้องต้นมีขนาดที่สูงใหญ่ อีกทั้งยังสามารถมีอายุที่ยืนยาว จึงทำให้เกิดความเชื่อนี้ขึ้นมา ซึ่งความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในต้นตาลนี้ ก็แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่แต่ละท้องถิ่น แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ ความเชื่อที่ว่ามีศักดิ์สิทธิ์ที่จะช่วยปกปักคุ้มครองอีกทั้งยังสามารถให้โชคลาภได้อีกด้วย
ต้นตาลให้โชค
ณ บริเวณทุ่งนาของบ้านภูมิพัฒนา หมู่ 12 ตำบลหนองตะไก้ อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา มีต้นตาลขึ้นอยู่เต็มไปหมด แต่มีต้นตาลต้นเพียงหนึ่งต้นแตกยอดออกมาสองยอด ทำให้ชาวบ้านในบริเวณนั้นต่างก็เรียกว่า ต้นตาลแฝด ขณะเดียวกันต้นตาลต้นนี้ได้เกิดแสงไฟคล้ายมีคนไปจุดตะเกียงขึ้นระหว่างง่ามทั้งสองของยอดตาล และเมื่อมีคนเอาเชือกไปผูกต้นตาลทั้งสอง ก็เหมือนกับว่าต้นตาลต้นนั้นกำลังจะล้มตายลง แต่พอเอาเชื่อออกก็กลับตั้งดังเดิม ชาวบ้านภูมิพัฒนา จึงเชื่อว่าตาลต้นนี้ เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่ จึงพากันกราบไหว้และขอเลขเด็ดที่บริเวณโคนต้นตาลคู่นี้ ซึ่งเหตุการณ์ก็ทำให้ชาวบ้านหลายคนถูกรางวัลอีกด้วย
สรุป
ต้นตาล ต้นไม้ ศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน นอกจากลูกตาลจะสามารถนำมาทำขนมที่แสนอร่อยได้แล้วนั้น ส่วนประกอบอื่นๆ ของต้นตาลก็สามารถทำประโยชน์ได้อีกหลากหลายด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่คนไทยมานาน
ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับความเชื่อต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้