ตำนานม่อนอังเกตุ แห่งอำเภอสะเมิง เชียงใหม่
ดอยม่อนอังเกตุ สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนที่ชอบการผจญภัย เพื่อขึ้นไปชมบรรยากาศของทะเลหมอก อีกทั้งยังเป็นสถานที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกลางเพื่อรอดูพระอาทิตย์ขึ้น และที่แห่งนี้ยังมีตำนานที่ถูกเล่าขานกันมาอย่างนาน ตำนานจะกล่าวถึงเรื่องอะไร ตามไปอ่านกันได้ในบทความนี้เลย
เว็บอัพเดทข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com
ข้อมูลทั่วไป
ม่อนอังเกตุตั้งอยู่ที่บ้านปางขุม หมู่ที่ 1 ตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าปางขุม เป็นต้นกำเนิดลำน้ำทั้ง 4 สายที่เป็นลำน้ำสำคัญนั่นก็คือ ขุนน้ำเลยไหลลงแม่น้ำแม่แตง ขุนน้ำสาไหลลงแม่น้ำปาย ขุนน้ำแม่สาบและขุนน้ำแม่จุมไหลลงมาที่ลำน้ำแม่ขาน จากนั้นไหลรวมสู่แม่น้ำปิง ดอยม่อน อังเกตุ สูงจากระดับน้ำทะเล 1840 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นอำเภอแม่แตง อำเภอแม่แจ่ม ห้วยน้ำดัง ห้วยจ้อ ดอยหลวงเชียงดาว ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่และผืนป่าอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ตำนานดอยม่อนอังเกตุ
ตำนานได้กล่าวไว้ว่า เมื่อนานมาแล้วมีหญิงฐานะสูงศักดิ์ ผู้มีรูปร่างหน้าตางดงามนามว่า ‘‘ แม่หญิงอังเกตุ ’’ นางมีพระบิดาเป็นพ่อพญา พระบิดาของแม่หญิงอังเกตุไม่ชอบพญาต่อเป็นอย่างมาก ท่านจึงมีนิสัยที่ชอบทำลายต่อหลวง ทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูกันมาเนิ่นนาน แม่นางอังเกตุ เป็นที่รักของพระบิดามากไม่ว่านางอยากได้หรือต้องการอะไร บิดาจะหามาให้ทุกอย่าง เนื่องด้วยเพราะนางเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว เมื่อพญาต่อหลวงทราบเรื่องว่าพ่อพญารักแม่นางอังเหตุดั่งแก้วตาดวงใจ หวงแหนยิ่งกว่าไข่ในหิน พญาต่อหลวงจึงคิดกลอุบายต่างๆนาๆ เมื่อคิดได้แล้วพญาต่อหลวงก็ได้บินไปยังเมืองของแม่นางอังเกตุ พอสบโอกาสที่ข้ารับใช้และองครักษ์ของนางเผลอ พญาต่อหลวงก็คาบแม่นางอังเกตุบินออกมาจากวัง บินมาไกลจนถึงม่อนแห่งหนึ่ง ที่มีขนาดสูงจึงทิ้งนางลงไว้ที่ม่อนแห่งนี้ แม่นางอังเกตุจึงได้ถามพญาต่อว่า ‘‘ เหตุใดจึงได้ทำเช่นนี้ ’’ พญาต่อจึงได้ตอบไปว่า ‘‘ นี่คือการแก้แค้นที่บิดาของเจ้าที่ชอบมาทำลายบริวารของข้าหลายต่อหลายครั้ง คิดเสียว่าเป็นกรรมของเจ้าที่ต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ ’’ จากนั้นพญาต่อก็ได้บินหายไป
เมื่อพ่อพญาบิดาของแม่นางอังเกตุทราบเรื่องว่าลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนหายตัวไป จึงได้ออกตามหาไปทั่วสารทิศ จนมาเจอม่อนสูงแห่งหนึ่งจึงได้ขึ้นไปดูก็พบว่าลูกสาวของตนอยู่ที่นี่ จากนั้นพ่อพญาจะพาตัวแม่นางอังเกตุกลับไปยังวัง แต่แม่นางอังเกตุกลับไปยอมไปจากที่นี่ นางให้เหตุผลว่า ‘‘ ข้อขออยู่ชดใช้กรรมของข้าให้หมดสิ้นที่นี่เถอะท่านพ่อ ’’ เมื่อพ่อพญาได้ยินเช่นนั้นก็อ้อนวอนให้ลูกสาวกลับวังอยู่นานแต่ก็ไม่เป็นผล จึงทำได้เพียงเรียกให้แม่นม องครักษ์ พร้อมด้วยช้าง เสือ เพื่ออยู่ดูแลแม่นางอังเกตุที่ม่อนแห่งนี้ ก่อนจะจากไปแม่นางอังเกตุก็ได้บอกกับบิดาและบริวารทั้งหลายว่า ‘‘ หากข้าหมดสิ้นเคราะห์กรรมแล้ว ให้ฝั่งร่างของข้าไว้ที่ม่อนแห่งนี้ด้วย ’’ เมื่อผ่านไปไม่นานถึงคราวสิ้นบุญสิ้นเคราะห์กรรม นางก็ได้สิ้นลม แม่นมและองครักษ์จึงได้ฝังร่างของแม่นางอังเกตุไว้บนม่อนแห่งนี้ตามที่นางปรารถนา ต่อมาเมื่อชาวบ้านที่อยู่บริเวณท้องถิ่นนั้น ได้ยินข่าวลือเรื่องของแม่นางอังเกตุจึงได้สร้างศาลเจ้าให้แม่นางบนม่อนนั้นและตั้งชื่อให้ว่า ‘‘ ศาลเจ้าเจ้าแม่อังเกตุ ’’ เพื่อเป็นที่เคารพบูชากราบไหว้ ให้เจ้าแม่อังเกตุช่วยปกปักรักษาคนในพื้นที่ อีกทั้งยังตั้งชื่อม่อนนั้นว่า ‘‘ ม่อน อังเกตุ ’’ มาจนถึงปัจจุบัน
ดอยม่อน อังเกตุ สถานที่ท่องเที่ยว
เป็นยอดดอยสูง ในช่วงปลายฤดูฝนของทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวชอบการผจญภัย เที่ยวป่า กางเต้นท์ มาที่ดอยม่อน อังเกตุอย่างคับคั่ง เพื่อมาสัมผัสอากาศหนาว ดูทะเลหมอก อีกที่ยังเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทิวสนในฤดูหนาวยามเช้า ทางมาที่ดอยม่อนเกตุ เป็นเส้นทางขับรถออฟโรดได้อย่างสนุกสนาน เพราะเป็นเส้นทางแคบลาดชันและลูกรัง ต้องผ่านขุนเขาสลับซับซ้อน ผ่านดูวิถีชีวิตของชาวเขาหลายชนเผ่าเช่นกะเหรี่ยง ลีซอ บนยอดดอยสามารถชมวิวได้ครบทั้ง 360 องศา
การเดินทาง
- ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ โดยใชเส้นทาง เชียงใหม่-ฝาง ถนนหมายเลข 107 ระยะทาง 37 กิโลเมตร
- ถึงตลาดแม่มาลัยให้เลี้ยวซ้าย โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 ขับต่อไปอีกประมาณ 30 กิโลเมตร
- ตามป้ายบอกทางไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าปางขุม
- จากนั้นจะเจอทางลูกรังและถนนที่ลาดชันไปจนถึงดอยม่อน อังเกตุระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร
สรุป
ตำนานม่อน อังเกตุ แห่งอำเภอสะเมิง เชียงใหม่ เป็นตำนานที่เป็นที่มาของชื่อม่อน อังเกตุ อีกทั้งบนดอยก็ยังมีศาลเจ้าแม่อังเกตุตั้งอยู่เพื่อกราบไหว้ขอพร สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ผจญภัย ดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่กันด้วยนะคะ
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติ ตำนาน ความเชื่อ และโชคลาภอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้