ตำนานภูตแม่น้ำโขง อาถรรพ์ไข่ลึกลับกลางแม่น้ำโขง

ตำนานภูตแม่น้ำโขง อาถรรพ์ไข่ลึกลับกลางแม่น้ำโขง

ถ้าพูดถึงตำนานภูตแม่น้ำโขงเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวนี้กันมาไม่มากก็น้อย เป็นเรื่องราวของนิยายในอดีตที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ความเชื่อ ความเกรงกลัวต่อสิ่งลี้ลับในแม่น้ำโขง และเรื่องราวยังถูกนำมาสร้างเป็นละครในยุคปัจจุบันนี้อีกด้วย ในบทความนี้จะมาเล่าถึงเรื่องราวตำนานและความเชื่อนี้ให้ได้รู้ที่มาที่ไป

เว็บอัพเดทข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com

จุดเริ่มต้นของเรื่องราว

เรื่องราวของภูตแม่น้ำโขงเริ่มต้นขึ้นเมื่อบัวผันสาวงามวัย 18 ปี ได้เดินอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง แล้วบังเอิญไปเจอไข่ใบใหญ่ฟ้องหนึ่ง เธอรู้สึกอยากจะกินไข่ใบนี้จึงได้นำกลับมาต้ม ซึ่งไข่ใบนี้หอมน่ากินมากระหว่าที่บังผันกำลังจะกินไข่นั้น ทองมีเพื่อนรักของบัวผันก็มาหาบัวผันที่บ้าน เธอเลยชวนให้ทองมีกินไข่ด้วยกันแต่ทองมีไม่กิน เพราะว่าเธอกินข้าวมาแล้ว และไม่อยากจะลองของแปลกด้วย บัวผันจึงกินไข่นั้นจนหมด ต่อมาแม้จะกินหมดแล้วก็ตามเธอก็ยังคงอยากกินมันอีก เธอจึงดื่มน้ำเพื่อระงับความอยากแทนเธอกินน้ำจนหมด แต่เธอก็ยังคงไม่หายอยาก บัวผันจึงบอกกับทองมีว่าเธอจะต้องไปดื่มน้ำในลำน้ำโขง ถึงจะหายอยากพร้อมกับหัวเราะเหมือนคนบ้า แล้วกระโดดลงจากบ้านวิ่งไปที่แม่น้ำโขงทันที เมื่อทองมีได้เห็นก็ตกใจแล้วก็เป็นห่วงเพื่อนมาก เลยรีบวิ่งตามไปพร้อมกับส่งเสียงร้องให้คนช่วยจับตัวเธอไว้ แต่คนที่ช่วยจับกลับถูกบัวผันจับทุ่มจนหงายท้อง ทุกคนทั้งหมู่บ้านก็แตกตื่นกันใหญ่เมื่อได้เห็นว่าเธอทีแรงมากขนาดนี้ทุกคนจึงลงความเห็นว่าบังผันต้องถูกผีสิงอย่างแน่นอน และเมื่อบัวผันมาถึงแม่น้ำโขงเธอก็ก้มลงดื่มน้ำจากแม่น้ำโขง โดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย ทองมีกลัวว่าเพื่อนจะท้องแตกตายจึงไปกระชากตัวบัวผันขึ้นจากน้ำ บัวผันหันมามองด้วยแววตาที่น่ากลัวและร้องตะโกนออกมาว่า กูไม่ใช่บัวผัน ทำเอาตกใจกันหมู่บ้าน ผู้อาวุโสที่สุดของหมู่บ้านชื่อว่าเฒ่าเซียงล่า รีบเข้ามาขอขมาผู้ที่สิงร่างบัวผันพร้อมกับพยายามถามว่าเป็นใครมาจากไหน ใช่เจ้าของไข่ที่บัวผันกินเข้าไปหรือเปล่า ซึ่งวิญญาณที่สิงร่างบัวผันตอบว่าไม่ต้องรู้รู้แต่ว่ากูจะเอาบัวผันไป จากนั้นร่างของเธอก็เดินลุยน้ำไปอยู่ตรงกลางน้ำโขงซึ่งตรงจุดนั้น มีความลึกมากถึง 40 วา และเย็นมาก ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นห่วงน้ำอาถรรพ์เพราะเมื่อราว 300 ปีก่อน ริมหาดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดพระเจ้าองค์คำ ต่อมาวัดถูกน้ำเซาะจนจมหายไปใต้แม่น้ำ พร้อมกับพระเจ้าองค์คำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพระประธานของวัด ภูตแม่น้ำโขงรวมทั้งเทวาอารักษ์ต่างมาคอยพิทักษ์รักษาพระพุทธรูปองค์นี้ และทันใดนั้นท้องฟ้าก็มืดลงมีฟ้าผ่าลงในแม่น้ำผู้คนที่เห็นก็ต่างตกใจก่อนที่ร่างของบัวผันจะจมลงสู่แม่น้ำโขงนั่นเอง

 

เจ้าแม่ทอหูก

หลังจากที่บัวผันหายตัวไปเป็นเวลาหลายวันก็มีนายแพทย์คนหนึ่งซึ่งศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรม ที่เกี่ยวข้องกับโรคจิตเวชในถิ่นชนบทร่วมถึงวิญญาณ เจ้าเข้าทรงด้วย ซึ่งเขามีชื่อว่าหมออัคนี เขาได้นำชาวบ้านหนึ่งคนไปล่อเรือกลางแม่น้ำโขงในตอนกลางคืนและได้นั่งสมาธิพร้อมเปิดเพลงธรณีกรรแสงเพื่อพิสูจน์เรื่องราวเกี่ยวกับวิญญาณภูต แม่น้ำโขง ขณะที่หมออัคนีนั่งสมาธิ จู่ๆก็มีเรือหนึ่งลำลอยมาพร้อมกับหญิงสาวที่รูปร่างงดงามนั่นก็คือบัวผัน และบอกให้คนที่อยู่บนเรือของหมออัคนีลงมาหาเธอที่เรือของเธอ ซึ่งคนเรือก็เกิดหลงไหลในความงานจึงได้ลงไปที่เรือลำนั้นพอเขาไปแตะร่างของบัวผัน ก็กลับกลายเป็นโครงกระดูดและบอกว่าตนคือเจ้าแม่ทอหูกผู้ปกครองดูแล พอคนเรือเห็นก็ตกใจกลัวมากได้แต่กราบขอขมาแล้วขอให้เจ้าแม่ยกโทษให้ ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกก็สั่งสอนให้เขาอย่ามักมากในกามและยอมไว้ชีวิตเขา และทันใดนั้นก็มีฟ้าผ่าลงมาทำให้คนเรือกระเด็นตกลงน้ำทันใดหมออัคนีก็ออกจากสมาธิแล้วมาช่วยคนเรือไว้พอดี ซึ่งพอถึงฝั่งคนเรือก็เล่าถูกอย่างให้หมอฟังแต่หมอก็ยังไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านมาหมออัคนีก็ศึกษาสิ่งต่างๆทางวัฒนธรรมความเชื่อของชาวบ้านไป แต่ชาวบ้านก็ยังคงเจอกับภูตผีปีศาจในแม่น้ำโขงอยู่เป็นประจำ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากที่หมออัคนี บัวผัน และเจ้าแม่ทอหูก ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกเกิดอิจฉาที่บัวผันกับหมออัคนีที่ได้รักกันในชาติก่อน โดยที่ตนเองตายไปและต้องมาเป็นภูต แม่น้ำโขงพอมาเจอทั้งสอง ในชาตินี้ก็เลยพยายามทำให้ทั้งสองไม่ได้เจอกันและไม่ได้รักกันนั่นเอง

ตำนานภูตแม่น้ำโขง อาถรรพ์ไข่ลึกลับกลางแม่น้ำโขง

หมออัคนีและบัวผัน 

ต่อมาหมออัคนีก็ได้ยินเรื่อราวที่บัวผันหญิงสาวที่กินไข่ประหลาด และจมหายไปในแม่น้ำโขง ทำให้หมอสนใจเรื่องนี้มากจึงอยากรู้ความจริง ทันใดนั้นเจ้าแม่ทอหูกที่ต้องการให้หมออัคนีมาอยู่กับตนที่เมืองใต้แม่น้ำโขง ก็วางแผนที่จะทำให้หมออัคนีมาเป็นของตน ซึ่งการที่มนุษย์จะลงไปยังเมืองใต้บาดาลได้มนุษย์คนนั้นจะต้องตายสักก่อน และดวงวิญญาณที่ตายในแม่น้ำโขง จะกลายเป็นวิญญาณที่เจ้าแม่ทอหูกเป็นผู้ปกครองนั่นเอง ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกเลยได้สิงร่างบัวผันและมาเจอกับหมออัคนีและได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้หมอฟัง ว่าตนเองโดนจับอยู่ใต้เมืองบาดาลทำให้หมออัคนีเกิดชอบบัวผันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เขาเลยอยากจะช่วยนางทำให้เจ้าแม่ทอหูกที่สิงร่างบัวผันอยู่นั้นได้วางแผนให้หมออัคนีไปเจอกับฤาษีในถ้ำๆหนึ่ง และบอกว่าฤาษีตนนี้จะนำพาไปยังเมืองบาดาลได้ พอหมออัคนีไปถึงฤาษีก็บอกให้เขาลงไปในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แต่จริงๆแล้งมันคือบ่อน้ำกรดอาคมที่ผู้ใดลงไปก็จะตายทันที ซึ่งฤาษีตนนี้ก็คือบริวารที่รับใช้เจ้าแม่ทอหูกนั่นเอง แต่พอหมออัคนีกำลังจะลงไปฤาษีก็เห็นแหวนวงหนึ่งที่หมอสวมไว้จึงบอกให้ถอดมันออก เพราะฤาษีรู้ทันทีว่าแหวนนั้นเป็นแหวนศักดิ์สิทธิ์ แต่หมออัคนีไม่ยอมถอดบอกว่าแหวนนี้พระที่ให้มาบอกให้เขาใส่ไว้ตลอดชีวิต แต่เจ้าแม่ทอหูกที่อยู่ในร่างบัวผัน ขอร้องจนหมอยอมถอดมันออก แต่หมอกลับโยนมันลงไปในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ทำให้เกิดไฟลุกท่วม ฤาษีโกรธมากจึงบอกให้เจ้าแม่ทอหูกที่อยู่ในร่างบังผันพลักหมออัคนีลงไปในบอกเพื่อจะได้นำวิญญาณไปยังเมืองใต้บาดาล แต่หมอหลบได้ทำให้เจ้าแม่ท้อหูกในร่างบัวผันตกลงไปในบ่อนั้นแทน และทันใด้นั้นเองหลวงพ่อจูม พระธุดงค์ที่เป็นพ่อของบัวผันก็ปรากฏกายทิพย์ออกมา และได้ช่วยบัวผันให้หลุดพ้นจากเจ้าแม่ทอหูก ส่วนเจ้าแม่ทอหูกก็ต้องชดใช้กรรมที่ตนก่อไว้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดจนชั่วนิรันดร์ และหมออัคนีกับบัวผันก็พากันกลับหมู่บ้านและเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้คนในหมู่บ้านฟัง จนทุกคนเข้าใจและหมออัคนีกับบัวผันก็ได้รักและครองคู่กันมานั่นเอง

 

สรุป 

ตำนานภูต แม่น้ำโขง อาถรรพ์ไข่ลึกลับกลางแม่น้ำโขง เป็นเรื่องราวนิยายสมัยก่อนที่เล่าถึงเจ้าแม่ทอหูกผู้ปกครองเหล่าวิญญาณในแม่น้ำโขง และเรื่อราวความรักของบัวผันและหมออัคนีตั้งแต่ชาติก่อน ทำให้เกิดเรื่องราวมากมายเกี่ยวภูตผีวิญญาณจนกลายมาเป็นตำนานที่คนรู้จักกันในปัจจุบันนั่นเอง

ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับสายมู ความเชื่อ และโชคลาภอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้