ตำนานความเชื่อเรื่อง ผีเปรต
ตามความเชื่อของคนไทยโบราณนั้น เปรต เป็นผีที่มีรูปร่างสูงเท่ากับต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ ผิวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่จะมีปากเท่ารูเข็ม และผีเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกินอะไรไม่ได้ จึงจะชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ เพื่อจะสะสมบุญ เมื่อสะสมบุญมากพอและได้เกิดใหม่ชาติหน้า จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างตอนที่เป็นเปรตนั้นเอง
เว็บอัพเดทข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com
ความหมายของคำว่า เปรต
เมื่อพูดถึงคำว่า “เปรต” คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงวิญญาณเร่ร่อน ที่จะไปขอส่วนบุญตามวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่คำว่าเปรตนั้น มาจากคำสันสกฤต และตรงกับคำบาลีว่า เปตะ ซึ่งแปลได้ 2 ความหมาย คือ
1.เปรต
หมายถึง ผู้ละไปแล้ว หรือผู้ที่ตายไปจากโลกนี้ไปแล้วนั่นเอง
2.เปรต
หมายถึง ผู้ที่อยู่ห่างไกลจากความสุข หรือผู้ที่ตายไปจากโลกนี้แล้วต้องทนทุกข์ทรมาน และชดใช้ผลแห่งกรรมที่ได้กระทำลงไป
ผีเปรตทั้ง 12 ตะกูล ตามลักษณะผลกรรม
1.กุณปาสทาเปรต เป็นเปรตที่ กินซากศพ หรือสัตว์เป็นอาหาร กรรมคือ เป็นคนไม่เคยทำทาน หรือให้ของที่ไม่ควรให้กับผู้อื่น
2.คูถขาทกเปรต เป็นเปรตที่ กินอุจจาระเป็นอาหาร กรรมคือ เป็นคนไม่เคยให้ความช่วยเหลือใคร เห็นแก่ตัวเป็นที่สุด
3.ตัณหัฏฏิตเปรต เป็นเปรตที่ จะหิวข้าว หิวน้ำตลอดเวลา แม้จะเห็นแหล่งน้ำก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกินได้ กรรมคือ เป็นคนหวงข้าว หวงน้ำ ขัดขวางไม่ให้คนอื่นกิน ไม่แบ่งคนอื่น
4.นิชฌามกเปรต เป็นเปรตที่ จะมีตัวสีดำเหมือนตอไม้ที่ถูกเผา ตัวสูง มือเท้าเป็นง่อย ปากเหม็น กรรมคือ เป็นคนใจหยาบ หรือเห็นพ่อแม่เกิดเจ็บป่วย ก็ไม่สนใจ แกล้งให้ท่านตายไว เพื่อจะได้ครองสมบัติ
5.ปัพพตังคเปรต เป็นเปรตที่ จะมีร่างกายใหญ่โตเหมือนภูเขา แต่ต้องถูกไฟเผาคลอกอยู่ตลอดเวลา กรรมคือ เมื่อตอนเป็นมนุษย์ ได้เอาไฟไปเผาผู้อื่น หรือเผาบ้านของผู้อื่น
6.มหิทธิกเปรต เป็นเปรตที่มีฤทธิ์มาก รูปงามเหมือนเทวดา แต่อดอยากหิวโหยตลอดเวลา เมื่อเจอของสกปรกก็มักจะดูดกินเป็นอาหาร กรรมคือ ตอนเป็นมนุษย์นั้นเคยบวชเรียน และพยายามรักษาศีล จึงมีรูปงาม แต่ก็เกียจคร้านต่อการบำเพ็ญธรรม จิตใจจึงยังเต็มไปด้วยความรัก โลภ โกรธ และหลง
7.วันตาสาเปรต เป็นเปรตที่ กินน้ำลาย และกินอ้วกเป็นอาหาร กรรมคือ ชาติก่อน ใครมาขออาหารก็ไล่ด้วยวิธีการถ่มน้ำลายใส่คนอื่น หรือไปถ่มน้ำลายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
8.เวมานิกเปรต เป็นเปรตที่ มีวิมานคล้ายเทวดา แต่จะเสวยสุขได้เฉพาะกลางวัน พอตกกลางคือก็จะเสวยทุกข์แทน กรรมคือ เมื่อเป็นมนุษย์มีศรัทธาทำบุญกุศลไว้มาก แต่ไม่สามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์ได้
9.สุจิมุขเปรต เป็นเปรตที่ จะมีเท้าใหญ่โต คอยาวมาก แต่ปากเท่ารูเข็ม กรรมคือ ใครมาขออาหารก็ไม่ให้ไม่มีจิตใจเอื้อเฟื้อ และไม่เคยที่จะถวายทาน
10.สัพพังคเปรต เป็นเปรตที่ จะมีเล็บมือ เล็บเท้าคมเหมือนกับมีด และงอเหมือนตะขอ ทำได้แต่ก้มหน้าก้มตาข่วนร่างกายตัวเองจนเป็นแผล และกินเลือดเนื้อตัวเองเป็นอาหาร กรรมคือ ชอบขูดรีดขูดเลือดขูดเนื้อเอาเปรียบชาวบ้าน หรือชอบรังแกพ่อแม่ของตัวเอง
11.อัคคิชาลมุขเปรต เป็นเปรตที่ จะมีเปลวไฟลุกในปากอยู่ตลอดเวลา กรรมคือ ใครมาขออะไร ก็จะแกล้งให้แต่ของร้อนๆ เพราะอยากกลั่นแกล้ง เผื่อให้ไม่ต้องมาขออีก
12.อชครเปรต เป็นเปรตที่ จะมีรูปร่างคล้ายกับสัตว์เดียรัจฉาน จะถูกเผาไหม้ร่างกายทั้งวันทั้งคืน กรรมคือ เป็นคนตระหนี่ เห็นผู้มีศีลมาเยือนก็ด่าก็ว่าเปรียบเปรยว่าเป็นสัตว์ เหตุเพราะไม่อยากที่จะทำทาน
สรุป
ตำนานความเชื่อเรื่อง ผีเปรต สำหรับท่านใดที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็น่าจะได้รู้ ความหมาย ตำนานความเชื่อ และลักษณะตามผลกรรมของเปรตกันไปพอสมควรแล้ว สุดท้ายก็อยากจะฝากข้อคิดไว้เตือนใจกันสักนิด การที่เรานั้นตายไปแล้วเกิดเป็นเปรตนั้น ก็ขึ้นอยู่กับบาปกรรมที่ได้กระทำไว้บนโลกมนุษย์ เพราะฉนั้นตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ก็ควรหมั่นทำบุญสร้างกุศลเอาไว้ โดยเฉพาะกับพ่อแม่หรือผู้มีพระคุณ ตายไปจะได้ไม่ต้องเกิดเป็น เปรต!!
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติ ตำนาน ความเชื่อ และโชคลาภอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้