“ของชำร่วย” ในพิธีต่างๆ มีที่มาอย่างไร ทำไมต้องมี
เมื่อเราได้ไปร่วมงานพิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น งานแต่ง งานบวช หรืองานศพ เรามักจะเห็นของที่ทางเจ้าภาพเตรียมไว้สำหรับให้แขกที่มาร่วมงาน แต่ทุกท่านเคยสงสัยกันหรือไม่ว่าเหตุถึงต้องมีของในพิธีเหล่านี้ด้วย วันนี้เราไปดูกันว่า “ของชำร่วย” ในพิธีต่างๆ มีที่มาอย่างไร ทำไมต้องมี ตามไปหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลย
นงน้อย.com เว็บอัพเดพข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ
ที่มาของชำร่วย ในพิธีต่างๆ
1. พิธีมงคลสมรสหรืองานแต่ง
การมอบของชำร่วยในงานแต่งมีความเชื่อเดิมมาทางยุโรป เป็นเรื่องเล่าของคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังจะแต่งงาน ทั้งคู่เป็นผู้ริเริ่มในการมอบของให้แขกที่มาในงานพิธีมงคลสมรส ซึ่งครั้งนั้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้บรรจุน้ำตาลใส่กล่องชิ้นเล็กๆ ในสมัยนั้นน้ำตาลถือเป็นของที่มีค่า เพราะมีราคาสูง การมอบน้ำตาลให้แก่กัน ของคนยุโรปจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แสดงความหมายถึงของมีค่าที่บ่าวสาวได้มอบให้แขกที่มาร่วมงาน เพื่อเป็นการขอบคุณแขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยานความรักในงานแต่งงานของตน การกระทำดังกล่าวยังสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน อีกทั้งบได้พัฒนากลายมาเป็นสิ่งของมีค่ามากขึ้นตามยุคสมัย หรืออาจจะเป็นสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความรักของคู่บ่าวสาว โดยสัญลักษณ์นั้นจะแสดงถึงความเป็นตัวตนของบ่าวสาวและมอบเป็นของแทนคำขอบคุณภายในชิ้นเดียวกัน ของบางอย่างบ่าวสาวก็จะเลือกเขาที่สามารถนำมาใช้งาน ใช้ประโยชน์ได้จริง หรือบางคู่ก็อาจจะมอบของที่เป็นของตั้งโชว์ และในปัจจุบัน บ่าวสาวยังนิยมให้ประเภทภาชนะ จาน ชาม ถ้วย แก้ว นั้นก็เพื่อให้ก่อเกิดประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด และเพื่อไม่ให้ถูกนำไปทิ้งขว้างนั่นเอง แต่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดการไปร่วมงานและได้ของชำร่วยกลับมาต่างก็ทำให้ผู้รับเกิดความประทับใจ และระลึกถึงพิธีมงคลสมรสนี้ในทุกๆ ครั้ง ที่ได้มองเห็น
2. พิธีอุปสมบท
งานอุปสมบท หรืองานบวช ถือได้ว่าเป็นงานที่ผู้มาร่วมงานพร้อมใส่มาร่วมทำบุญกุศลต่อตัวผู้ที่บวชพระหรือบวชเณร นับเป็นพิธีสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญในการไปร่วมงานกันมากที่สุด เนื่องจากความเชื่อที่ว่า นอกจากพ่อแม่ของผู้ที่บวชจะได้เกาะชายผ้าเหลืองของลูกแล้ว ผู้ที่มาร่วมงานจะได้บุญกุศลของการบวชในครั้งนั้นด้วย หลายครั้งเราจึงมักจะเห็นภาพของงานบวช เต็มไปด้วยผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ที่มาร่วมงานกันโดยมิได้นัดหมาย และเป็นอีกหนึ่งพิธีที่จำเป็นต้องมีของชำร่วย เนื่องจากผู้ที่มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้เจ้าภาพจำเป็นจะต้องเตรียมเพื่อมอบให้เป็นสิ่งที่แสดงถึงความขอบคุณต่อแขกที่มาร่วมงานพิธีมากเป็นพิเศษ ซึ่งนอกจากจะแสดงความขอบคุณกับแขกที่มาร่วมงานแล้ว ยังสร้างคุณค่าทางจิตใจต่อผู้รับ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วของชำร่วยที่นิยมมอบให้กับแขกในงานบวช จะเป็นพระเครื่อง ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งของมีค่า สร้างความประทับใจให้กับผู้มาร่วมงานได้เป็นอย่างดี และการมอบพระเครื่องถือเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้ที่ให้ อีกทั้งยังเป็นการมอบบุญกุศลให้กันอีกด้วย การเลือกของชำระให้เหมาะสมกับงาน ตรงใจผู้รับมากที่สุดในงานบวชก็ทำให้เจ้าภาพได้รับบุญกุศลเพิ่มขึ้นอีกด้วย
3. พิธีฌาปนกิจหรืองานศพ
มีขึ้นเพื่อเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ระลึกถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว อีกทั้งยังเป็นเสมือนสิ่งแทนคำขอบคุณที่เจ้าภาพจำเป็นจะต้องเตรียมของเอาไว้เพื่อมอบให้แขกที่มาแสดงความไว้อาลัยผู้เสียชีวิตภายในงาน อีกทั้งยังเป็นสิ่งแทนแสดงความรัก ความหวังดี และความห่วงใย ให้กับผู้ที่มาร่วมงาน โดยของแจกงานศพ จะมีราคาถูก แต่สามารถนำไปใช้งานจริงได้ เพื่อให้ผู้รับเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับ และระลึกถึงผู้เสียชีวิตอยู่เสมอ เมื่อนำมาใช้ ดังนั้นการเลือกของชำร่วยงานศพ จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่เจ้าภาพจะต้องเลือกของให้เหมาะสม และสามารถแสดงความขอบคุณผู้มาร่วมไว้อาลัยผ่านของชิ้นเหล่านั้นได้ และให้เหมาะแก่กาลเทศะของงานศพให้มากที่สุด
ของชำร่วยที่นิยมในพิธีต่างๆ
- พิธีมงคลสมรสหรืองานแต่ง ได้แก่ เครื่องหอม กระถางต้นไม้เล็กๆ เมล็ดพันธุ์ต้นไม้ หรือดอกไม้ สบู่หอมแฮนด์เมด เทียนหอม ตะเกียบคู่ หรือชุดช้อนส้อม ขนมไทย เบเกอรี่ต่างๆ สมุดบันทึก พวงกุญแจ ถุงผ้า แก้วน้ำ เป็นต้น
- พิธีอุปสมบท ได้แก่ พระเครื่อง ร่ม ไฟฉาย กระเป๋าผ้า แก้วน้ำ ชุดจานชาม ผ้าขนหนู เป็นต้น
- พิธีฌาปนกิจหรืองานศพ ได้แก่ ร่ม แก้วน้ำ ไฟฉาย ยาดม พิมเสนน้ำ บทสวดมนต์ชินบัญชร กระเป๋าใส่เหรียญ เป็นต้น
สรุป
ในพิธีต่างๆ มีที่มาอย่างไร ทำไมต้องมี เราก็ได้ทราบกันแล้ว และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเจ้าภาพจะต้องเลือกของที่ถูกต้องและเหมาะสมกับงาน เพื่อให้ผู้รับเกิดความประทับใจ และจะได้นึกถึงเจ้าของงานนั้นๆเมื่อหยิบมาใช้
ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้