กะลาตาเดียว ของขลังของดีจากธรรมชาติ
กะลา ตาเดียว ของขลังของดีจากธรรมชาติ ในปัจจุบันผู้คนมากมายที่ประกอบอาชีพค้าขายต่างต้องเผชิญกับคู่แข่งทางการค้าที่เกิดขึ้นมาอย่างมากมายในช่วงของโควิดที่ผู้คนตกงานกันแล้วออกมาทำอาชีพค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันมากขึ้น พ่อค้าแม่ขายเองก็อยากให้สินค้าของตนขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า บางคนถึงกับเข้าไปทำเมตตามหาสเน่ห์ของสายดำ แรกๆก็ขายดีหลังกับโดนอาถรรพ์ของ สิ่งที่ไปทำมาจากสายดำทำให้เกือบเอาชีวิตไม่รอดก็มี บางคนเจอครูบาอาจารย์ที่ดีๆของจริงก็ถือว่าดีไป แล้วจะทำอย่างไรหาสิ่งใดมาบูชาเพื่อยึดเหนี่ยวและเรียกลูกค้าล่ะในเมื่อ พ่อค้าแม่ขายเองก็ไม่ได้เป็นผู้ที่มีความรู้ในศาสตร์ความลี้ลับเหล่านี้ ถ้าค้าขายอยากหาสิ่งใดมาบูชานั้น สิ่งนี้จะว่าหายากก็ไม่ยากจะว่าหาง่ายก็ไม่ง่ายเพราะเป็ของอาถรรพ์ของขลังที่เกิดขึ้น ในธรรมชาติ นั่นคือ กะลา ตาเดียว
นงน้อย.com เว็บอัพเดพข่าวสาร เกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ
ลักษณะของกะลาตาเดียว
กะลามะพร้าวโดยทั่วไปนั้น จะมีลักษณะ รู ที่เราเรียกกันว่าตา อยู่ที่พบเห็นได้ดดยทั่วไปนั้นคือ 3 ตา บ้าง สองตาบ้างจะพบเห็นได้โดยทั่วไป แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่มีลักษณะเป็นตาเดียวขึ้นมานั้น กะลาอันนั้น จะเป็นกาลาในแบบที่ผู้ที่มีวิชาอาคม และ ชื่นชอบในเรื่องเครื่องรางของขลังต่างตามหา ถึงขนาดที่ให้ราคา บางลูกหลักพัก บางลูกหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับลักษณะและความสวยงามของกะลาใบนั้นๆ
ความเชื่อในเรื่องของกะลา ตาเดียว
ความเชื่อเมื่อพบเห็นกะลาที่มีลักษณะ ตาเดียวนั้น เชื่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่า เป็นกะลาที่มีความวิเศษ เป็นของขลัง ที่มีเทพเทวดาคอยรักษาผู้ที่มีบุญครอบครองอยู่ ถ้าหากนำมาติดตัวจะทำให้เป็นผู้ที่ทำมาค้าคล่องมีความมั่งคั่งเก็บเงินอยู่เป็นมหาอุตย์ และยังพลิกชีวิตอีกด้วย ในสมัยก่อนผู้คนที่พบเห็นจึงนิยมนำมาเป็น ที่ตักข้าว หรือตักน้ำเชื่อกันว่าจะทำให้ มีความอุดมสมบูรณ์แก่ครอบครัว จะไม่มีวันพบเจอกับคำว่าอดอยาก จะมีความพร้อมความสมบูณ์ทุกอย่างในชีวิต
วิธีการนำมาใช้
หากวันหนึ่งหลายๆท่านได้พบเห็นกะลาที่มีลักษณะตามที่ได้บอกกล่าวไปเบื้องต้นแล้วอยากจะนำมาใช้ติดตัวจะมีวิธีการนำมาใช้ได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
- ปิดทองกะลา วิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อนข้างนิยมพอสมควรเนื่องจากวิธีนี้จะทำให้กะลาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดเนื่องจากไม่ต้องตัดหรือทำอะไรกับกะลา เพียงแค่ไปนำทองคำเปลวมาปิดแล้วอธิษฐานถึงเทพารักษ์ที่คอยปกปักรักษากะลาตามความเชื่อนี้ ให้ทำมาค้าคล่อง พกไปไหนเป็นสิริมงคลเพียงเท่านี้ ก็มีประสบการณ์เกิดขึ้นกับผู้ที่บูชามากมายแล้ว
- ผ่าครึ่งกะลานำไปตักข้าวสาร หรือ ตักน้ำกิน วิธีนี้เป็นวิธีที่คนในสมัยโบราณนิยมทำกันเพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้ครอบครัวนั้นอุดมสมบูรณ์ ไม่มีคำว่าอดอยาก จะทำสิ่งใดก็มีความสมบูรณ์เตรียมพร้อมไว้แล้วนั่นเอง
- นำมาแกะสลัก เป็นรูปราหู วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในปัจจุบัน เพราะกะลาที่มีคุณวิเศษที่เป็นของขลัง มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้วนั้น หากนำมาแกะสลักเป็นรูปพระราหู ไม่ว่าจะเป็นพระราหูที่กำลังอมพระจันทร์ ที่แกะจากกะลาทั้งลูกหรือ พระราหูที่แกะจากเศษเสี้ยวของกะลาใบนั้นๆก็ตามต่างได้รับความนิยมที่สูงมาก อย่างราหู กะลาของหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง ที่มีผู้เช่าหากันหลักแสนจนไปถึงหลักล้าน
สรุป
ด้วยความต้องการที่มากขึ้นเพราะมีหลายคนที่เชื่อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ของกะลาที่มีลักษณะเป็นตาเดียวนี้ก็มีการทำของปลอมเลียนแบบขึ้นมาเยอะมาก ทั้งตาเดียวจริงๆและ กะลาธรรมดาแต่เอามาแกะแล้วอวดอ้างว่า สิ่งนี้คือราหูที่แกะมาจากกะลา ตาเดียว เพราะฉะนั้นการจะเช่าหาบูชานั้นต้องมีการศึกษาและทำการซื้อขายจากแหล่งที่มีความเชือถือได้เท่านั้น แล้วกะลาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้ค้าขายคล่อง จริงหรือไม่ อันนี้ก็อาจจะบอกได้ว่าขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคน อยู่กับความเชื่อความศรัทธา และ การทำมาค้าขายที่สุจริตด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยว โชคลาภ ให้ท่านได้อ่าน