กระสือยายเฟือง เรื่องเล่า สยองขวัญ
ในปัจจุบันถ้าพูดถึง เรื่องราวเกี่ยวกับผีหรือวิญญาณในประเทศไทย เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีไทย อย่างเช่น ผีกระสือ ผีปอบ ผีฟ้า ผีกระหัง เป็นต้น แต่ในบทความนี้ จะมาเล่าถึงหนึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับผีกระสือที่ค่อนข้างน่ากลัว และยังเป็นหนึ่งเรื่องที่ผู้คนบอกกันว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ ของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในประเทศไทยนั้นก็คือ เรื่องเล่าเกี่ยวกับกระสือยายเฟือง
เว็บอัพเดทข่าวสารที่เกี่ยวกับโชคลาภที่ดีที่สุดสำหรับคุณ นงน้อย.com
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ในสมัยนั้นแต่ละหมู่บ้านตามแถบชนบทยังมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องผีสารนางไม้ กันอย่างมากจึงทำให้ในเวลาหลัง 6 โมงเย็นตามหมู่บ้านจะไม่มีผู้คนออกจากบ้าน เพราะเชื่อว่าเวลาหลัง 6 โมง เป็นเวลาที่พวกผีหรือวิญญาณจะออกมาอาหารหรือหลอกชาวบ้าน จึงทำให้ความเชื่อเหล่านี้ถูกปลูกฝังกันมาเป็นเวลายาวนาน ในหมู่หนึ่งได้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีกระสือออกอาละวาดอย่างหนักทำให้ชาวบ้านไม่กล้าแม้แต่จะออกมาทำอะไรในเวลากลางคืน ทั้งที่ชาวบ้านลือกันว่ากระสือตนนี้เป็น กระสือยายเฟือง แต่กลับไม่มีใครทำอะไรได้เลยเพราะยายเฟืองเป็นแม่ของผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้าน ซึ่งพอใครพูดถึงเกี่ยวกับยายเฟืองไม่ดีหรือกล่าวหาว่าเป็นผีกระสือ คนเหล่านั้นมักจะโดนพวกพ้องของผู้ใหญ่บ้านมาทำร้าย ทำให้ไม่มีชาวบ้านกล้าที่จะพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับยายเฟืองสักเท่าไร ต่อมาได้มีกลุ่มคนเข้ามาเพื่อจะจัดการเรื่องนี้ เพราะว่าบ้านของแฟนหนึ่งในกลุ่มของคนที่จะเข้ามาจัดการกับกระสือบอกว่าถูกกระสือยายเฟืองมาก่อกวน บริเวณบ้านจนหวากลัวทุกคืน ต่อมาทางแฟนเลยขอให้เพื่อนมาช่วยในเรื่องนี้ จึงทำให้เกิดการล่ากระสือ ยายเฟืองเกิดขึ้นในคืนหนึ่ง
บ้านน้าส้ม
น้าส้มคือคนที่ขอให้แฟนที่ชื่อน้าสิงมาช่วยจัดการกับกระสือ แต่ด้วยน้าสิงก็เป็นคนที่กลัวผีและรู้เกี่ยวกับเรื่องกระสือ ยายเฟืองอยู่ จึงทำให้น้าสิงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ไม่กลัวอะไรเลยรวมทั้งผีหรือวิญญาณเพื่อนคนนี้ก็ไม่กลัว แกชื่อน้ายักษ์ วันหนึ่งน้าสิงส่งจดหมายไปหาน้ายักษ์เพื่อให้แกมาหาที่บ้านพอน้ายักษ์มาถึงบ้านทางน้าสิง ก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับกระสือ ยายเฟืองให้ฟังเพื่อที่จะให้น้ายักษ์ช่วยจัดการเรื่องนี้ เพราะทางน้าสิงเป็นห่วงทางบ้านน้าส้มอย่างมาก พอน้ายักษ์ได้ฟังก็หัวเราะบอกว่าเอ็งเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอและบอกอีกว่าเรื่องผีมันไร้สาละ แต่ด้วยความสบายใจของเพื่อนทางน้ายักษ์ก็ตัดสินใจจะช่วย อีกอย่างในใจก็อยากจะพิสูจน์เรื่องผีกระสือด้วย ซึ่งในเวลาต่อมาทางน้ายักษ์กับน้าสิงก็ได้เดินทางไปบ้านน้าส้มที่แกอาศัยอยู่กับแม่และน้องที่พึ่งคลอดออกมาไม่นาน แต่ด้วยน้าสิงยังไม่ได้แต่งงานกับน้าส้มการที่จะไปค้างคืนในบ้านอาจทำให้ชาวบ้านมองไม่ดี ทางน้ายักษ์กับน้าสิงจึงการเต้นนอนข้างนอกบ้านแทน ต่อมาเวลาผ่านไปในตอนกลางคืน ซึ่งน้ายักษ์เป็นที่หลับลึกจนไม่ได้ยินอะไรพอตื่นเช้ามา ทางน้าส้มและทุกคนในบ้านก็ปลุกน้ายักษ์ให้มาดูผ้าถุงที่แม่ตากไว้ปรากฏบนผ้าถุงมีคราบเลือดและสิ่งสกปกติดอยู่เต็มไปหมด น้าส้มบอกว่าทุกวันผีกระสือจะมาเช็ดปากที่ผ้าถุงของแม่ประจำ แต่ถ้าวันไหนไม่เอาผ้าถุงมาแควนไว้วันนั้นจะมีเสียงเหมือนคนเดินลากเท้าและเสียงครางน่ากลัวตลอดทั้งคืน พอน้ายักษ์ได้ฟังแกก็ยังคงไม่เชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้แกอยากจะจัดการณ์กับผีกระสือให้ได้จึงได้ไปขอยืมปืนจากเพื่อนสนิทอีกคนเพื่อมาล่าผีกระสือในคืนต่อมา
ล่า กระสือยายเฟือง
น้ายักษ์ได้มาหาเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งชื่อว่าน้ามิ่งเพื่อยืมปืน เพราะน้ามิ่งแกเป็นทหารเก่าและยังเป็นคนที่ชอบสะสมปืนอย่างมาก ต่อมาน้ายักษ์ก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้น้ามิ่งฟัง ซึ่งน้ามิ่งก็เป็นคนที่กลัวผีเหมือนน้าสิงเลย แต่ด้วยความเป็นเพื่อนแกเลยได้หยิบปืนลูกซองหนึ่งกระบอกให้กับน้ายักษ์ และไปช่วยน้ายักษ์กับน้าสิงล่าผีกระสือด้วย พอทั้งสามคนได้มารวมตัวกันที่บ้านของน้าส้มแล้ว พอถึงกลางคืนทั้งสามคนก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรอยู่ทางหลังบ้าน ทางน้าสิงกับน้ามิ่งกลัวมาเลยเดินตามหลังน้ายักษ์มาอย่างช้าๆ พอน้ายักษ์ค่อยๆเปิดประตูก็ได้เห็นคนแก่ยืนหลังค่อมในปากกำลังเคี้ยวอะไรอยู่ น้ายักษ์ตกใจแต่ยังไม่ทันเห็นเต็มๆ ยายแก่คนนั้นก็วิ่งหนีออกไปแต่พอทั้งสามคนตั้งสติได้ก็ได้ขับมอเตอร์ไซค์ไล่ตามไปทันที ทางน้ายักษ์เป็นคนนำหน้ามาถึงกับแปลกใจว่าทำไมคนแกวิ่งเร็วได้ขนาดนี้เพราะตอนนั้นทางน้ายักษ์ไม่เชื่อว่านี้คือผีคิดว่าอาจจะเป็นเพียงคนแก่เท่านั้น แต่พอขับรถเข้าไปใกล้ๆ ยายแก่คนนั้นก็ได้พุ่งเข้าป่าข้าวโพดทันที ทำให้น้ายักษ์จอดรถเพื่อรอน้าสิงกับน้ามิ่งที่กำลังตามมา พอทั้งสามคนมาถึงก็ตัดสินใจขับรถเข้าป่าข้าวโพดเพื่อไล่ล่ายายคนนั้นต่อจนสุดท้ายทั้งสามก็เจอกับยายคนนั้นยืนอยู่ แต่สิ่งที่ทั้งสามคนเห็นนั่นคือ ยายแกกำลังค่อยๆถอดหัวออกมาและเห็นไส้ที่กำลังรอยขึ้นมา ได้มองมาที่เขาทั้งสามคนด้วยความโกรธเกรี้ยวในตาดำสนิด ทำให้น้าสิงกับน้ามิ่งกลัวอย่างมาก แต่น้ายักษ์พอจะตั้งสติได้แกเลยนำปืนที่พกมายิงมั่วๆไป 2 นัด ปรากฏว่ามีหนึ่งนัดที่โดนผีกระสือ ทำให้เลือดไหลออกมา แต่ด้วยผีกระสือรอยหายไปในความมืดทำให้ตามไม่ทัน ทั้งสามคนจึงตัดสินใจกลับมาที่บ้านน้าส้มพอถึงตอนเช้าทั้งสามคนรวมทั้งน้าส้มก็มาปรึกษากันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นมายังไง ทุกคนเชื่อว่านี้คือกระสือ ยายเฟืองอย่างแน่นอน ทั้งหมดจึงตัดสินใจไปหาผู้ใหญ่บ้านและเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง พร้อมทั้งหลักฐานคือผ้าที่น้ายักษ์นำไปเช็ดเลือดกระสือมาเพื่อจะให้ผู้ใหญ่บ้านนำไปตรวจพิสูจน์กับเลือดของยายเฟือง และยังพาไปดูตรงจุดที่บอกว่ายิงผีกระสือเมื่อคืน พอไปถึงจุดนั้นก็มีรอยเลือดจริงอย่างที่น้าทั้งสามคนบอก ทำให้ผู้ใหญ่บ้านต้องตัดสินใจบอกไปว่า เดียวจะจัดการเรื่องนี้เองแล้วกัน ทั้งหมดจึงตอบตกลงเพื่อรอฟังผู้ใหญ่บ้านชี้แจ้ง และทั้งน้ายักษ์ น้าสิง น้ามิ่ง กลับมาที่บ้านน้าส้ม ทั้งสามคนก็ได้พูดคุยและคิดว่าเรื่องนี้คงจบแล้ว แต่น้ายักษ์ก็ถามน้ามิ่งว่าปืนอันนี้มันเป็นของใครมีสัญลักษณ์แปลกๆ แต่น้ามิ่งก็บอกไม่แน่ใจเพราะว่าได้มานานแล้วแกจึงบอกว่าปืนนี้ยิงผีได้นั้นก็ให้น้ายักษ์เป็นของขวัญเลยแล้วกัน ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกลับบ้านของตัวเอง ต่อมาประมาณ 1 สัปดาห์ ก็มีข่าวจากผู้ใหญ่บ้านบอกว่ายายเฟืองได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคชรานั่นเอง ทำให้คนในหมู่บ้านรู้สึกโล่งใจมากขึ้นเพราะคนส่วนใหญ่คิดว่ายายเฟืองคือผีกระสืบอย่างแน่นนอน เพราะหลังจากยายเฟืองเสียชีวิตก็ไม่มีคนในหมู่บ้านพบเห็นผีกระสืออีกเลยตั้งแต่นั้น แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นี้เพราะต่อมาได้มีเรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้นกับน้ายักษ์จนทำให้แกถึงขั้นเกือบเสียสติเลยทีเดียว
ปืนของวงศ์ตระกูล
พอเวลาผ่านมาได้ไม่นานหลังจากที่ยายเฟืองผู้ที่ถูกบอกว่า เป็นผีกระสือได้เสียชีวิตลงทางน้ายักษ์ก็ได้กลับบ้านมาพร้อมปืนที่น้ามิ่งให้ไว้ ที่เป็นปืนที่น้ายักษ์ใช้ยิงผีกระสือแต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ทางน้ายักษ์ก็รู้สึกแปลกๆเวลาอยู่บ้านทุกคืนจะรู้สึกเหมือนมีคนมาเดินลากเท้ารอบบ้านพร้อมกับเสียงคราง อยู่บ่อยครั้งแต่พอแกออกไปดูกลับไม่พบอะไร เป็นอยู่แบบนี้จนแกเริ่มวิตกกังวน ต่อมาแกก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้น้ามิ่งฟังและยังถามว่าปืนนี้มีอะไรหรือป่าว แต่น้ามิ่งแกจำไม่ได้ว่าได้ปืนนี้มาจากไหนแกเลยขอเวลาหาคำตอบให้น้ายักษ์ เวลาก็ผ่านมาระยะหนึ่งน้ายักษ์ก็เริ่มเสียสติจากคนที่ไม่กลัวอะไรตอนนี้กับระแวงทุกอย่าง และคำตอบที่ได้ในตอนท้ายก็คือน้ามิ่งได้บอกว่าสัญลักษณ์บนปืนที่น้ามิ่งให้ไปนั้น คือสัญลักษณ์ของตระกูลผู้ใหญ่บ้านหรือก็คือตระกูลของยายเฟืองนั้นเอง
สรุป
กระสือยายเฟือง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหมู่บ้านหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นพื้นที่ชนบทที่มีผีกระสือออกอาละวาด แต่ด้วยทุกคนคิดว่าผีกระสือเป็นแม่ของผู้ใหญ่บ้านจึงทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้ ต่อมาได้มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งมาจัดการณ์กับเรื่องนี้จนทำให้ผีกระสือหายไปจากหมู่บ้านนี้ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ายายเฟือง คือผีกระสือจริงหรือไม่เพราะเป็นเพียงคำบอกเล่าของคนที่พบเจอ กับผีกระสือเพียงเท่านั้น สุดท้ายยายเฟืองแกก็ได้เสียชีวิตเพราะโรคชราตามอายุของแกเพียงเท่านั้น จึงทำให้เรื่องราวนี้ถูกเล่ากันมาจำกลายเป็นเรื่องเล่าที่ค่อนข้างหน้ากลัวของหมู่บ้านนี้เลยทีเดียว
ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับตำนาน ความเชื่อ เรื่องเล่าเรื่องผีอีกมากมาย ท่านสามารถติดตามที่จากเว็บนี้